หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม“ศาลแพ่ง” รับคำร้องไต่สวนฉุกเฉิน สื่อฯ ฟ้องขอคุ้มครองชั่วคราว ให้ “อคฟ.” งดใช้กระสุนยางยิง ‘ม๊อบ’ นัดฟังคำสั่ง บ่ายพรุ่งนี้

“ศาลแพ่ง” รับคำร้องไต่สวนฉุกเฉิน สื่อฯ ฟ้องขอคุ้มครองชั่วคราว ให้ “อคฟ.” งดใช้กระสุนยางยิง ‘ม๊อบ’ นัดฟังคำสั่ง บ่ายพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่ศาลแพ่ง ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์รายงานว่า  ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2574 ที่ผ่านมา นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ กับพวกรวม 2 คน ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับพวก รวม 4 คน ในมูลละเมิดและพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 พร้อมยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉิน เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ 3683/2564

ซึ่งศาลแพ่งมีคำสั่งให้รับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) และยกฟ้องจำเลยที่  2 ถึงที่ 4 เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 5  วรรคหนึ่ง และยกคำร้องขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉิน นั้น

ในวันนี้ (วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ) โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่ง ได้ไต่สวนคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ในกรณีฉุกเฉิน โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 มีคำสั่งห้ามเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้อาวุธปืนยิงกระสุนยางใส่โจทย์ทั้งสอง สื่อมวลชนอื่น และประชาชนที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำการหรือมีท่าทีคุกคามต่อชีวิตบุคคลอื่น

มีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 มีคำสั่งห้ามเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนคุกคามข่มขู่ จำกัดพื้นที่การปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ทั้งสองและสื่อมวลชนอื่น

มีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 สั่งการเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชน และมีคำสั่งห้ามจำเลยที่ 1 และเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนสลายการชุมนุมโดยขัดต่อหลักการพื้นฐานว่าด้วยการใช้กำลังและอาวุธโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และหลักการดูแลการชุมนุมสาธารณะตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2498 นั้น

บัดนี้ ศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ พก 683/2564ได้มีคำสั่งให้รับคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว ในกรณีฉุกเฉินดังกล่าวและออกนั่งพิจารณาไต่สวนคำร้องดังกล่าวแล้วมีคำสั่งให้นัดฟังคำสั่งวันที่ 10 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 นาฬิกา

สำหรับรายละเอียดของคดีดังกล่าว  เหตุจาก กรณีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่  6 สิงหาคม 2564 น.ส.จันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วย นายธนาพงศ์ เกิ่งไพบูลย์ ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว PLUS SEVEN และนายชาญณรงค์ เอื้ออุดมโชติ ช่างภาพประจำสำนักข่าว The MATTER ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเจ้าหน้าตำรวจยิงกระสุนยางเข้าใส่ระหว่างไปทำข่าวการชุมนุม  ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)และพล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (ผบก.อคฝ.) ร่วมกันเป็นจำเลย1- 4 ฐานละเมิด พร้อมเรียกค่าเสียหายคนละ 7 แสนบาท รวมจำนวนทุนทรัพย์ 1.4 ล้านบาท

ต่อมา เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ขณะที่โจทก์ทั้งสองปฏิบัติหน้าที่บริเวณแยกผ่านฟ้า ได้ถูกพวกจำเลยกระทำละเมิดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยางเข้าสลายการชุมนุมโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้โจทก์ที่ 1 ถูกยิงบริเวณสะโพก  ส่วนโจทก์ที่ 2 ถูกยิงบริเวณแขนซ้าย ได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่โจทก์ทั้งสองใส่เครื่องหมายแสดงตัว ปลอกแขน บัตรสื่อมวลชน และไม่มีท่าทีคุกคามหรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ 

การกระทำของพวกจำเลยทำให้โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหาย  จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าสียหายแก่โจทก์ทั้งสองด้วย ท้ายฟ้องโจทก์ทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยาง และความรุนแรงต่อการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ และสื่อมวลชนด้วย ศาลรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป

โดยนายธนาพงศ์ กล่าวว่า ในวันนี้ มายื่นฟ้อง และเรียกร้องค่าเสียหาย กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) รวมถึงเรียกร้องเสรีภาพของสื่อมวลชนด้วย  การปฏิบัติหน้าที่ของสื่อต้องได้รับการคุ้มครอง สื่อไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร รัฐอาจปฏิบัติหน้าที่หรืออาจหละหลวมทำให้เราได้รับผลกระทบ วันนี้จึงมาเรียกร้องค่าเสียหาย และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อมีคำสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยาง ซึ่งอาจกระทบกับการทำงานของสื่อมวลชนในการชุมนุมครั้งต่อไป

สำหรับ เหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ  ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณริมฟุตบาท พร้อมกับสื่อมวลชนจำนวนมาก มีการสวมปลอกแขนแสดงความเป็นสื่อมวลชนอย่างชัดเจน จากนั้นเจ้าหน้าที่ประกาศฉีดน้ำผสมสี สื่อมวลชนจึงหลบด้านข้าง แต่ผ่านไปไม่เกิน 3 นาที เจ้าหน้าที่ได้ยิงกระสุนยาง โดยที่ไม่มีการประกาศแจ้งเตือน ตนถูกยิงที่สะโพก และฟุบลงไป ขณะที่นายชาญณรงค์ ถูกยิงที่แขนซ้าย ได้รับบาดเจ็บ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img