ปัจจัยรุมเจ้าทำ SET เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ดัชนีปิดวันนี้ (19 มี.ค. 64) ที่ระดับ 1,563.96 จุด ลดลง 4.86 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 88,717.85 ล้านบาท แนวโน้มสัปดาห์หน้าแกว่งตัวในกรอบแคบ ให้แนวรับ 1,550 จุด แนวต้าน 1,570 จุด แนะจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลงแรง และ กังวลฟุตซี่ปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย (FTSE Rebalance) มีผลวันนี้ รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (Bond Yield) ดีดขึ้นมาแรง
ทั้งนี้ Bond Yield ปรับขึ้นจากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าจะฟื้นตัวเร็วกว่าคาด หลังจากมีการฉีดวัคซีนโควิดได้เร็ว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐหนุนให้มีเม็ดเงินจำนวนมากเข้ามาเพิ่มสภาพคล่องในตลาด อีกทั้ง ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐจึงคาดว่าเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้น
นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น ขณะที่ประเด็น FTSE Rebalance ทำให้มีแรงขายหุ้นบิ๊กแคป ได้แก่ PTT, ADVANC, CPALL, AOT เป็นต้น รวมแล้วมีผลต่อดัชนีกว่า 10 จุด อย่างไรก็ดีมองว่าเป็นการฐาน
นอกจากนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศมาตรการผ่อนคลาย โดยเฉพาะการลดระยะเวลากักตัวเหลือ 10 วันจาก 14 วัน ยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เชื้อโรคกลายพันธุ์ และจุดเริ่มต้นการเปิด Area Quanrantine ก็นับเป็นข่าวดี อย่างไรก็ดี การฉีดวัคซีนในไทยมองว่าล่าช้า ซึ่งน่าจะเห็นการฉีดได้มากขึ้นในเดือน เม.ย.-พ.ค.
แนวโน้มสัปดาห์หน้าน่าจะปรับตัวในกรอบแคบๆ ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด แนวต้านที่ 1,570 จุด โดยให้ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดในวันที่ 22 มี.ค.นี้ในหัวข้อนวัตกรรมในยุคดิจิทัล และวันที่ 23 มี.ค.จะแถลงต่อคณะกรรรมาธิการด้านบริการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จากนั้นวันที่ 24 มี.ค.จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาในหัวข้อ “กฎหมายช่วยเหลือและเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19
สิริวรรณ ลีลาประกอบชัย : ภาพ / เรื่อง

