ทั้งนี้ นายนิกร กล่าวว่า การพิจารณาในข้อกฎหมายมี 2 ประเด็น เรื่องแรก คือ การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 และการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ( ส.ส.ร.) มายกร่างฉบับใหม่ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และประเด็นที่ 2 คือ หารือว่า การทำประชามติต้องทำเมื่อใด ทำก่อนหรือทำหลัง หรือทำกี่ครั้ง โดยนำความเห็นจากการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา เมื่อวันที่ 23-24 กันยายนที่ผ่านมา มาพิจารณาด้วย ก่อนสรุปความเห็นส่งที่ประชุมกรรมาธิการชุดใหญ่พิจารณา
ส่วนกฎหมายที่จะต้องนำมาเป็นกรอบการจัดทำประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายนิกรกล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ตั้งเรื่องมาแล้ว ซึ่งอาจมี 2 ทาง คือ ร่างพ.ร.บ.ประชามติ หรือ ร่างพ.ร.บ.ประชามติของ คณะรัฐมนตรี แต่ติดตรงที่กฎหมายดังกล่าวใช้สำหรับนโยบายรัฐบาลที่ประชาชนมีความเห็นต่าง จึงจะพิจารณาในข้อกฎหมายว่าจะนำมาใช้ได้หรือไม่

