ทั้งนี้เพื่อเป็นการพยุงเศรษฐกิจให้ได้ตามที่คาดไว้ ภาครัฐควรใช้นโยบายการคลังให้มากขึ้น ด้วยการออกมาตรการชิมช้อปใช้ ในรูปแบบการลดหย่อนภาษี ไม่ใช่การให้เงินใช้จ่ายเพิ่ม เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น รวมไปถึงส่งเสริมองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ลงทุนในพื้นที่ และการทำโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ให้เร็วขึ้นด้วย
ขณะที่มาตรการคนละครึ่ง 3,000 บาท จะกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือน จะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบประมาณ 60,000 ล้านบาท และวันหยุดยาวจะเพิ่มการใช้จ่ายในระบบได้อีก 10,000 ล้านบาท และหากรวมกับการจ้างงานใหม่ จะทำให้มีเงินหมุนเวียนตรงนั้นอีก 19,000 ล้านบาท รวมกับนายจ้างเต็มเข้าไปอีก 19,000 ล้านบาท ทำให้ทั้งหมดมีเงินหมุนเวียนรวมกว่า 100,000 ล้านบาท ได้ ซึ่งก็จะดันให้จีดีพีในไตรมาสที่ 4 ขยายตัวได้ 1-2%
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จะเห็นว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการใช้นโยบายการคลังเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมา ที่มีการออกมาตรการจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ 200,000 ตำแหน่ง การประกาศวันหยุดยาว 2 ช่วง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบประมาณ 100,000 ล้านบาท