เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.พร้อม ด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป.พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป.และ พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผกก.5 บก.ป.ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ ”ใจเจ็บ เจ็บใจ” หลังเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 71 จุด 39 จังหวัดทั่วประเทศ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 48 ราย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ของกลาง ขนาด .22 แอลอาร์ และขนาด .22 แม็กนั่ม จำนวน 120 กระบอก ลำกล้องปืน จำนวน 82 ชิ้น ชุดลั่นไกและลูกเลื่อน จำนวน 9 ชุด พานท้ายปืน จำนวน 12 ชิ้น โก่งไกปืน จำนวน 31 อัน ซองกระสุนปืน จำนวน 39 อัน และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆรวม 2,216 นัด
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลคดียิงกันตายในพื้นที่ สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี หลังพบว่าอาวุธปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้เป็นปืนเถื่อนที่ซื้อมาจากเพจเฟซบุ๊ก “ใจเจ็บเจ็บใจ” ซึ่งถือเป็นเพจใหญ่มีผู้ติดตามกว่า 5 หมื่นคน และยังมีช่องทางให้ติดตามผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆหลายช่องทาง เช่น ยูทูปที่ปัจจุบันมีผู้ติดตามช่องทางดังกล่าวของกลุ่มนี้กว่า 5 แสนคน รวมถึงไลน์กลุ่มออฟฟิเชียลอีกหลายกลุ่ม โดยปืนส่วนใหญ่ที่ลักลอบจำหน่ายจะเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับและหมายค้น นำไปสู่ปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาจำนวนรวม 48 คน โดยแบ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย 3 คน คือ 1.นายธนัทนันท์ นันท์ชัยวงศ์ อายุ 26 ปี ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการคอยทำหน้าที่เป็นแอดมินกลุ่มบริหารจัดการลูกค้าและสินค้าต่างๆ รวมถึงยังเป็นผู้ผลิตปืน 2. นายขันตรี แก้วคุณนอก อายุ 37 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตพานท้ายปืนสำหรับรุ่นพิเศษที่ลูกค้าต้องการ และ 3.นายกนกพล รักตน อายุ 19 ปี ทำหน้าที่คอยแพ็คของส่งสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่งเป็น 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ร่วมกันทำ ประกอบซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มีหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนที่เหลืออีก 45 คน เป็นกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นการจับกุมในความผิดซึ่งหน้าเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน หลังพบว่ามีการครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญา
“สำหรับอาวุธปืนของกลางที่ตรวจยึดได้นั้นตรวจสอบพบว่ามีการทำลียนแบบปืนยี่ห้อดังจากต่างประเทศ มีสนนราคาเริ่มต้น 9.5 พันบาท แต่หากต้องการแบบคุณภาพสูงราคาก็เพิ่มขึ้นไปอีกเป็น 2.2 หมื่นบาท” ผบก.ป. กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สุพจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้จากการสืบสวนยังพบอีกว่า ในช่วงเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มดังกล่าวมีประวัติส่งสินค้าไปยังลูกค้าแล้วนับหลายร้อยครั้ง ซึ่งหากรวมกับก่อนหน้านี้เชื่อว่าน่าจะมียอดส่งสินค้าไม่ต่ำกว่าพันกระบอก อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติของนายธนัทนันท์ ตัวการหลักพบว่าจบการศึกษาระดับ ปวส. ด้านคอมพิวเตอร์ ก่อนจะไปทำอาชีพกรีดยางและขายอุปกรณ์ตกปลา แต่ด้วยสนใจและชื่นชอบปืนไทยประดิษฐ์จึงศึกษาผ่านอินเตอร์เน็ต แล้วสั่งซื้ออุปกรณ์ต่างๆ มาประกอบขายเอง ได้กำไรกระบอกละประมาณ 5,000 บาท มีฐานการผลิตที่ จ.เชียงราย ส่วนพานท้ายปืนมีฐานผลิตที่ จ.นครราชสีมา รูปแบบการส่งสินค้าจะใช้วิธีทยอยส่งแบบกระจายชิ้นส่วน หรือส่งทั้งกระบอก อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ต้องหาหลักทั้ง 3 คนนั้น จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าลักลอบขายมาแล้ว 2 ปี เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป