กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.95-31.30 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 31.11 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วขณะที่ปริมาณธุรกรรมค่อนข้างเบาบางตลอดทั้งสัปดาห์ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 4.0 พันล้านบาทและ 1.6 พันล้านบาทตามลำดับ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์กรุงศรีมองว่านักลงทุนจะติดตามท่าทีของสหรัฐฯและจีนเพื่อประเมินทิศทางความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าหลังการเลื่อนการเจรจาเพื่อทบทวนข้อตกลงการค้าเฟสแรกซึ่งเดิมกำหนดไว้วันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมาและยังไม่ได้กำหนดวันใหม่รวมทั้งติดตามรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สำหรับวันที่ 28-29 ก.ค. และประเด็นทางการเมืองในสหรัฐฯหลังประธานาธิบดีทรัมป์พยายามที่จะคัดค้านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทางไปรษณีย์นอกจากนี้การเจรจา Brexit ในสัปดาห์นี้จะอยู่ในความสนใจของตลาดเช่นกันอนึ่งตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอาจมีแนวโน้มซึมลงต่อไปท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงาในช่วงฤดูร้อนของซีกโลกตะวันตกขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อาจย่ำฐานในกรอบเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่หลังเจ้าหน้าที่เฟดประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังรวมทั้งทำเนียบขาวและสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครตยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นทางการคลังชุดใหม่แม้จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในสหรัฐฯชะลอตัวลง
สำหรับปัจจัยในประเทศสภาพัฒน์ฯรายงานข้อมูลจีดีพีสำหรับไตรมาส 2/2563 หดตัว 12.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยเป็นอัตรารุนแรงที่สุดในรอบ 22 ปีและหดตัว 9.7% จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์อย่างไรก็ดีตัวเลขดังกล่าวถือว่าลดลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยหดตัว 6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทั้งนี้สภาพัฒน์คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัว 7.3-7.8% ในปี 2563 โดยประเมินว่ายอดส่งออกจะลดลง 10.0% ขณะที่เรามองว่าแรงส่งของการฟื้นตัวยังคงมีความไม่แน่นอนสูงรวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรงขึ้นอาจจำกัดความต้องการลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินบาทในระยะถัดไป