ทั้งนี้ ในส่วนงานประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ประกอบกิจการ ณ สนามบินในความรับผิดชอบของ ทอท.ด้วยวิธีประมูลเสนอราคา กำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2563 – 31 มีนาคม 2574 ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของสัญญา จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ร้านค้าทั้งภายในอาคารผู้โดยสารหลัก และภายในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) นั้น แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ส่งผลต่อแผนการเปิดใช้อาคาร SAT-1 เดิมมีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2563 แต่จากสถานการณ์ COVID-19 ได้ส่งผลให้วัสดุอุปกรณ์ในงานก่อสร้างหลายรายการ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่มาทดสอบระบบไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ทำให้ภาพรวมของการทดสอบการเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการ ต้องเลื่อนออกไป โดยคาดว่าจะสามารถทำการทดสอบระบบการปฏิบัติงานต่างๆ ร่วมกันแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2565
อย่างไรก็ตาม ทอท. ได้คาดการณ์ปริมาณจราจรทางอากาศในอนาคตของสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบจะกลับมาเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปจนถึงระดับปกติในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งจะต้องพิจารณากำหนดการเปิดใช้บริการอาคาร SAT-1 ให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง รวมทั้งต้องพิจารณาค่าใช้จ่าย และค่าเสื่อมราคาที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดใช้งานอาคารดังกล่าว ให้สอดคล้องกับประมาณการรายได้ต่อไป และจากสถานการณ์ข้างต้น จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไม่สามารถดำเนินงานตามแผนภายใต้สัญญาเดิมได้ เนื่องจากแผนดำเนินงานของผู้ประกอบการต้องติดต่อประสานกับ supplier นำเข้าสินค้าวัสดุอุปกรณ์จากต่างประเทศที่มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน สินค้าแบรนด์เนมหลายรายการมีการผลิตและจำหน่ายตามฤดูกาล ความไม่ชัดเจนในการเปิดให้บริการของอาคาร SAT-1 ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินการได้
ดังนั้น ทอท. จึงได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการ เพื่อกำหนดวันเริ่มต้นอายุสัญญาให้สอดคล้องกับการเปิดใช้อาคาร SAT-1 คือในเดือนเมษายน 2565 ในส่วนของการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำยังคงผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสาร ตามที่กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เสนอมาในการประมูล และปรับขึ้นตามสัญญาเดิมหลังจากมาตรการช่วยเหลือเบื้องต้นสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม 2565