โดย นายอำนาจ กล่าวว่า ไม่ได้ไปร้องต่อช่อง 7 เพราะมองว่าตนเองไม่มีอำนาจที่จะไปตรวจสอบเขา จึงต้องมาร้องต่อกกต.ว่าจะสั่งการให้ระงับหรือมีดุลยพินิจอย่างไร ซึ่งการร้องในครั้งนี้ก็ได้ส่งผังรายการที่ละครดังกล่าวเริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 20 สิงหาคม ซึ่งก็ไม่เคยรู้มาก่อน มารู้ตอนผู้สมัครของพรรคไปเดินหาเสียง แล้วประชาชนมาเล่าว่ามีละครรีรันช่อง 7 นายกรุงศรีวิไล ร่วมแสดง พรรคก้าวไกลก็กลัวว่าจะเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ และนายกรุงศรีวิไล จะบอกไม่รู้ไม่เห็นก็คงไม่ได้ เพราะก็เป็นอดีตส.ส.มาหลายสมัย ขณะเดียวกันย่อมต้องรู้ว่ามีกฎหมายเลือกตั้งทำไม่ได้ มันเข้าข่ายจูงใจให้ประชาชนไปลงคะแนน เป็นเรื่องที่ผู้สมัครต้องรับรู้โดยสามัญสำนึกอยู่แล้ว ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบอยู่แล้วเหมือนเป็นการโฆษณาทางวิทยุโทรทัศน์ในช่วงระหว่างเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายก็ห้ามผู้สมัครใช้วิทยุโทรทัศน์ในการหาเสียงเว้นแต่กกต.จัดให้ แต่ก็ต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลทำเอกสาร และติดช่วงหยุดยาวจึงทำให้เพิ่งมาร้องกกต.ในวันนี้