ช.อ้น ณ.บางช้างร็อกเกอร์รุ่นเก๋าพาลูกบุญธรรม นักธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจหรือ บก.ปอศ. ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่สร้างพระธาตุและใบอนุโมทนาบุญปลอม ทำให้ตนกับเพื่อนที่ร่วมทำบุญ สูญเงินไป นับล้านบาท
วันที่ 21 กค. 63 เวลา 11.00 น.ที่ บก.ปอศ.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้มี ช.อ้น ณ.บางช้างอดีตนักดนตรีร็อกเกอร์รุ่นเก๋าวัย 74 ปีพร้อมด้วย น.ส.พัสกร ยาชูชีพ อายุ 45 ปีบุตรบุญธรรมนักธุรกิจตำหน่ายวัสดุก่อสร้างพร้อมเพื่อนๆที่ถูกหลอกร่วมทำบุญบูชาพระบรมสารีริกธาตุ แจ้งความ พ.ต.ท.หญิงศุภรดา วุฒิธนาพร รอง.ผกก.4.บก.ปอศ. หัวหน้ากลุ่มพนักงานสอบสวน
นส.พัสกร เล่าว่า ไปทำบุญที่วัดถ้ำเขาวง อ.หนองน้ำแดง จ.นครราชสีมา และเจอกับนายแจ๊ค นามสมมุติที่รู้จักกันมาประมาณ 2 ปี ชวนให้ทำบุญพระบรมสารีริกธาตุ มีราคาตั้งแต่ 5 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาทโดยอ้างว่านั่งสมาธิแล้วพระธาตุเสด็จมาที่บ้าน ตนกับเพื่อนหลงเชื่อจึงทำบุญถวายเงินไปรรวม 200,000 บาท และได้พระธาตุกลับมาจำนวน 10 ชิ้นมาบูชาที่บ้าน พร้อมกับใบอนุโมทนาบัตร แต่ภายหลังพบว่าพระธาตุที่ได้รับมามีสีสันวิบวาวกว่าปกติ ต่างจากพระธาตุที่เคยมี จึงนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจดูด้วยสายตาพบว่าเป็นพระธาตุปลอม จึงตัดสินใจนำไปให้สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตรวจสอบพบว่าองค์ประกอบในพระธาตุดังกล่าวทำมาจากทองแดง หิน กรวด เรซิ่น รวมทั้งเกลือ ไม่ใช่กระดูกหรือสรีระจริงแต่อย่างใด
จากนั้น ได้นำใบอนุโมทนาบัตรให้ฝ่ายบัญชีของบริษัทตรวจสอบ ยืนยันว่าเป็นใบอนุโมทนาบัตรปลอม เมื่อมั่นใจว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความในวันนี้นอกจากกลุ่มตนเองแล้วยังมีนักธุรกิจอีกหลายรายที่ถูกหลอกให้ร่วมทำบุญแต่ไม่กล้าออกมาเป็นข่าวกลัวเสียหน้าอีกนับล้านบาท
โดยวันนี้ได้นำหลักฐานมีใบรับรองการตรวจผลจากห้องแล็ปของทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต จำนวน 10 ฉบับระบุเป็นเซิ่น แลักรวดสีธรรมดาไม่ใช้ชื้นส่วนของกระดูก และใบอนุโมทนาบัตรของวัดต่างๆ มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เพื่อประกอบการดำเนินคดีต่อไป