นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ‘Chaturon Chaisang‘ กล่าวถึงประเด็นการยุบคสช.แล้ว ใครจะดูแลความเรียบร้อย ว่า ประโยคทองจากอดีตนักวิชาการด้านความมั่นคงประโยคนี้ เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ แต่เป็นการบ่งบอกถึงบทสรุปรวบยอดหรือผลึกของตรรกะเหตุผลที่คสช.ใช้อ้างถึงความจำเป็นในการยึดอำนาจและอยู่ในอำนาจมาตลอดเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่า จะใช้เพื่ออยู่ต่อไปอีกนาน ถ้ามีแต่คสช.เท่านั้นที่ดูแลความเรียบร้อยได้ ก็คงต้องถามว่า คสช.จะต้องอยู่กับประเทศนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ ชั่วนิจนิรันดรเลยหรืออย่างไร
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อไปว่า ในเมื่อรัฐธรรมนูญก็มีแล้ว กฎหมายต่างๆก็ออกกันมามากมายแล้ว ปฏิรูปประเทศก็ทำกันมาเกือบ 4 ปีแล้ว เหตุใดกลไกต่างๆของบ้านเมืองก็ยังไม่สามารถดูแลความเรียบร้อยได้เสียที ยังต้องอาศัยคสช.แบบขาดไม่ได้อยู่อีก จากนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ ยังจะมีการสร้างระบบกลไกอะไรที่เข้มแข็งทรงประสิทธิภาพอีกมากมายหรืออย่างไร พอบอกกันได้หรือไม่ ถ้าไม่สามารถตอบได้ว่า จากนี้ไปจะมีทีเด็ดอะไรที่จะทำให้กลไกต่างๆของรัฐสามารถดูแลความเรียบร้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าที่เป็นอยู่ จะไม่หมายความว่า แม้มีรัฐบาลหลังการเลือกตั้งแล้ว ประเทศนี้ก็ยังอาจจำเป็นต้องมีคสช.อยู่ต่อไปอีกหรอกหรือ ความจริงเรื่องจำเป็นต้องมีคสช.เพื่อดูแลความเรียบร้อยของบ้านเมืองนี้ ถูกใช้เป็นข้ออ้างมาตลอด ผู้ที่อ้างบ่อยที่สุดเป็นประจำ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร แต่ความวุ่นวายไม่เรียบร้อยในอดีต เกิดขึ้นได้อย่างไร ?เหตุใดกลไกของรัฐ รวมทั้งกองทัพที่ตอนนั้นมีพล.อ.ประยุทธ์เป็นผบ.ทบ.จึงไม่สามารถทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ ทำไมต้องเข้ายึดอำนาจเสียก่อนจึงจะทำให้เกิดความเรียบร้อยได้ ไม่ค่อยมีการพูดกัน
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า เมื่อยึดอำนาจแล้วบอกว่า จะมาทำให้บ้านเมืองสงบและจะมาปฏิรูปประเทศ ก็ควรจะหมายความว่า จะทำให้บ้านเมืองมีกฎกติกา มีระบบกลไกที่สามารถดูแลความสงบเรียบร้อยได้โดยไม่ต้องอาศัยกำลังกองทัพเข้ายึดอำนาจ เพื่อดูแลความเรียบร้อยอีก แต่นี่กลายเป็นสร้างเงื่อนไขจนทำให้ประเทศเหมือนตกอยู่ในสภาพที่เสพติดคสช. เสพติดการใช้กำลังทหาร อาวุธและความรุนแรงในการดูแลความเรียบร้อย ชนิดที่ขาดไม่ได้ ซึ่งหมายความว่า บ้านเมืองเราจะต้องปกครองกันแบบอนารยะเรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด ความวุ่นวายก่อนการรัฐประหารนั้น มีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร เมื่อรัฐประหารมาแล้วก็ยังใช้เป็นข้ออ้างในการอยู่ในอำนาจนานๆ และเมื่อบริหารปกครองมาเกือบ 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่ได้ลดเงื่อนไขที่จะใช้เรื่องความวุ่นวายเป็นข้ออ้างที่คสช.จะอยู่ในอำนาจต่อไปอีก
“ด้วยตรรกะเหตุผลที่คสช.และพวกใช้อยู่นี้ ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากสรุปว่า แม้มีเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่แล้ว ประเทศไทยก็จะยังอยู่ในสภาพที่มีการอ้างได้ต่อไปไม่สิ้นสุดว่า การจะดูแลความเรียบร้อยในบ้านเมืองยังจำเป็นต้องอาศัยอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของกองทัพ หรือผู้ที่สามารถสั่งกองทัพได้อย่างคสช.เท่านั้น นี่หรือขอเวลาอีกไม่นาน ?” นายจาตุรนต์ กล่าว