ซึ่งจากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้มีการชี้แจงถึงนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการผลักดันให้เกษตรกรปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเอง และนำไม้ยืนต้นนั้นมาเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพื่อนำไปต่อยอดทำการเกษตรหรือใช้สอยในชีวิตประจำวัน เป็นการช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยเกษตรกรบ้านหนองจิกให้ความสนใจปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเอง และส่วนใหญ่ใช้พื้นที่การเกษตรในรูปแบบผสมผสาน คือ การปลูกไม้ยืนต้นสลับกับการปลูกพืชผักสวนครัว โดยมีการแบ่งพื้นที่การเพาะปลูกที่ชัดเจน ทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จากพื้นที่เกษตรกรรมอย่างคุ้มค่า
ด้าน ธ.ก.ส. มีรายงานว่า จนถึงปัจจุบันมีชุมชนที่เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 6,848 ชุมชน ส่งเสริมให้มีการปลูกไม้ยืนต้นเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2 ล้านต้นต่อปี และที่ผ่านมามีผู้ขอนำไม้ยืนต้นมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแล้ว จำนวน 105,381 ต้น มูลค่ารวม 131,649,237 บาท