หน้าแรกเศรษฐกิจ-การเงินเที่ยวปันสุข 3 หน่วยงาน ผนึกกำลังฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศ

เที่ยวปันสุข 3 หน่วยงาน ผนึกกำลังฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศ

รัฐทุ่มงบกรอบวงเงิน 22,400 ล้านบาทผุด 2 แพ็กเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวพร้อมเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทยและ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เริ่มก.ค.-ต.ค.นี้

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายพิพัฒน์รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานการแถลงข่าวมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยวเที่ยวปันสุขประกอบด้วยแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกันและกำลังใจพร้อมด้วย นายยุทธศักดิ์สุภสรผู้ว่าการททท. นายลวรณแสงสนิทผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลังและ นายพยงศรีวณิชกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกันรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมที่พักให้ร้อยละ 40 รับE-Voucher อีกคืนละ 600 บาทส่วนสายการบินเมื่อนักท่องเที่ยวชำระค่าบัตรโดยสารแล้วรัฐบาลคืนเงินให้กลับไปร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่งพร้อมทั้งมอบแพ็กเกจกำลังใจขอบคุณอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เที่ยวในประเทศ 2 วัน 1 คืนคนละไม่เกิน 2,000 บาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่ามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว “เที่ยวปันสุข” ประกอบด้วยแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกันกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาทและแพ็กเกจกำลังใจกรอบวงเงิน 2,400 ล้านบาทรวมทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาทเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2563

ดำเนินการโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยททท. ร่วมกับกระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังและธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน)แพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกันเป็นการฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศโดยการสนับสนุนค่าที่พักและค่าบัตรโดยสารเครื่องบินรัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) ในอัตราร้อยละ 40 ของค่าที่พักแต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืนในการเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมและโฮมสเตย์ที่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องนอกจากนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับ E-Voucher คืนละ 600 บาทใช้จ่ายเป็นค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะร่วมจ่ายเช่นกันซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนการใช้จ่ายในอัตราร้อยละ 40

ในส่วนของสายการบินรัฐบาลจะสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินบางส่วนในลักษณะการจ่ายคืน (Redeem) สำหรับผู้จองที่พักที่เดินทางโดยสายการบินโดยผู้จองที่พักจะต้องดำเนินการจองและชำระค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเต็มจำนวนผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบินและรัฐบาลจะจ่ายเงินคืนในอัตราร้อยละ 40 ของค่าบัตรโดยสารแต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่งเข้าสู่แอปพลิเคชั่นเป๋าตังของผู้จองที่พักภายหลังการเช็คเอาท์สามารถนำไปใช้จ่ายหรือถอนเงินสดได้โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวต่ออีกว่าแพ็กเกจกำลังใจเป็นการขอบคุณอสม.,อสส., และรพ.สต. ซึ่งเป็นผู้ที่เสียสละในการทำงานอย่างหนักและเป็นผู้ที่มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไม่เกินคนละ 2,000 บาทสำหรับการเดินทาง 2 วัน 1 คืนโดยทั้งสองแพ็กเกจสามารถใช้สิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทยและ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการททท. กล่าวว่า www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ผู้ประกอบการโรงแรมที่พักสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้สำหรับประชาชนทั่วไปจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ส่วนแพ็กเกจกำลังใจจะเปิดให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวลงทะเบียนผ่าน www.เที่ยวปันสุข.ไทยในวันที่ 10 กรกฎาคม 2563 สำหรับอสม.,อสส., และรพ.สต. สามารถเข้าไปลงทะเบียนในวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ และเดินทางท่องเที่ยวได้ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคให้เติบโตและทำให้เกิดการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้แก่ธุรกิจนำเที่ยวธุรกิจโรงแรมธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อไป

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่าธนาคารพร้อมสนับสนุนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนลงไปในระดับฐานรากที่ผ่านมาธนาคารร่วมดำเนินโครงการและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศมาโดยตลอดเช่นกันโดยในครั้งนี้ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กำลังใจ” ธนาคารได้พัฒนาแพลตฟอร์มการลงทะเบียนและการชำระเงินแบบดิจิทัลผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างประชาชนกับผู้ประกอบการเข้าไว้ด้วยกันไม่ยุ่งยากซับซ้อนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังกล่าวว่ากระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้กำหนดคุณสมบัติของประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิโดยต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปณวันที่ลงทะเบียนมีบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือสามารถลงทะเบียนรับสิทธิท่องเที่ยวที่พักและสิทธิประโยชน์อื่นๆโดยขอย้ำว่าต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเองซึ่งการลงทะเบียนขอแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเป๋าตังมาเตรียมไว้ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเชื่อมั่นว่าจะช่วยเร่งการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img