นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังให้การต้อนรับ นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H.E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องรับรองรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา คนใหม่ เป็นคนที่กระตือรือล้นสูงมาก ระหว่างอเมริกากับไทย ซึ่งได้เสนอแนวคิดการต่อยอดอุตสาหกรรมของทั้งสองฝ่าย และตนได้เสนอแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมและทางทูตได้รับปากว่าจะนำไปพัฒนา อยากให้สหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นพิเศษ เนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน(CVMVT)และปีหน้าโครงการEECเริ่มสมบูรณ์ อีกทั้งตลาดเงิน-ตลาดทุนของไทยก็มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว รวมถึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และดิจิตอล ซึ่งตนเคยให้นโยบายกับ BOI ที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องใหม่ๆด้านบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาและอยากให้สถาบันวิจัยและสถาบันการศึกษาขั้นนำของสหรัฐเข้ามาในประเทศไทย

โดยนายสมคิด เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางด้านวิทยาการ?ภูมิภาคนี้ได้ ซึ่งยืนยันว่าตลาดลงทุนไทยไม่แพ้ประเทศสิงคโปร์ สามารถขยายฐานผลิตต่อยอดและภาคบริการได้ รวมถึงตลาดหุ้นที่สามารถเชื่อมโยงกับฮ่องกงและเซินเจิ้น (จีน)ได้ รวมถึงงานด้านการแพทย์ซึ่งมหาวิทยาลัยและหน่วยงานราชการพร้อมมากในการขยายตลาดหากได้คู่ค้าที่ดีก็จะเป็นสิ่งที่ประเสริฐ?ที่สุด และพร้อมที่จะพัฒนาแพ็กเกจร่วมกันและสามารถแลกเปลี่ยนร่วมกันได้เพราะ BOI มีงบที่จะให้เกี่ยวกับการแข่งขัน ซึ่งจะสามารถดึงดูดการลงทุนเข้ามาได้ ซึ่งไทยไม่ต้องการแค่บริษัท แต่ต้องการเป็นแพคเกตเลย และทางสหรัฐ?ยืนยันว่าจะเสนอมาโดยเร็ว

ทั้งนี้ การพูดคุยกับทางสหรัฐในวันนี้เป็นการคุยในเรื่องสำคัญ และขออย่ามาถามเรื่องการเมืองกับตนในตอนนี้ ซึ่งยืนยันว่าตนเองยังทำงานเศรษฐกิจทั้งแก้ไขเศรษฐกิจในและนอกประเทศ และมองเป็นเรื่องปกติที่มีกระแสการเมืองในขณะนี้ อย่างไรก็ตามในวันศุกร์หน้าจะมีการประชุม ครม. เศรษฐกิจ เพื่อเสนอ 2 แพ็กเกจหลักด้านเศรษฐกิจให้ ครม. พิจารณา