ทั้งนี้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้รับการร้องขอจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการกว่า 1,000 คนและครอบครัวอัศวเหมก็ได้มอบฉันทะให้สมาคมฯมาดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งกระบวนการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเปิดโอกาสให้จำเลยสามารถอุทธรณ์ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 2560 ได้ เพื่อที่นายวัฒนาจะได้กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างสุจริตใจได้
ซึ่งนายวัฒนาเคยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาตั้งแต่ปี 2559 ทำให้ยังอยู่ในกรอบระยะเวลาที่จะยื่นคำขอพิจารณาคดีใหม่ได้ ตามระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ 2560 ประกอบ พ.ร.บ.การรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ 2526 อีกทั้งมีพยานหลักฐานใหม่มากมายที่จะขอให้ศาลรื้อฟื้นคดีใหม่ได้ อาทิ กรณีถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยมิชอบในสมัยดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทยเพื่อบังคับให้สภา อบต.คลองด่าน ประชุมให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ซึ่งต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติและมีหนังสือยืนยันแล้วว่า ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาจึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงชอบด้วยเหตุผลและเข้าเงื่อนไขทางกฎหมาย ที่นายวัฒนา จะขอใช้สิทธิในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง สมาคมฯจึงนำความมาร้องต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้สั่งการไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อเปิดทางให้ความเป็นธรรมต่อนายวัฒนาต่อไป