เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.กล่าวภายหลังประชุมคณะทำงานสืบสวนสอบสวนกรณีคนร้ายวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ระหว่างการคุมตัวไปตรวจดูพยานที่ศาล โดยประชุมเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงว่า
จากการสืบสวนของตำรวจพบว่ามีความชัดเจนเรื่องขบวนการชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ระหว่างคุมตัวไปศาลจริง ไม่ได้มีเพียงหลักฐานคำให้การของนายโจ และนายท็อป ที่ถูกสั่งให้ไปหาทางช่วยเหลือ พ.ต.ท.บรรยิน จริง โดยตำรวจมีหลักฐานทั้งพยานบุคคลและเอกสารที่สามารถดำเนินคดี พ.ต.ท.บรรยิน ได้ใน 4 ข้อหา ฐานเป็นผู้ใช้-จ้างวาน สนับสนุนผู้อื่นให้กระทำผิด ส่วนพฤติการณ์ไปลักพาตัวเข้าข่ายข่มขืนใจเจ้าพนักงานถือเป็นความผิดตาม ม.139 ป.อาญา,ม.191 ช่วยผู้ต้องขัง และ ม.309-310 หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซึ่งการเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมถึงการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ภายในสัปดาห์นี้ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน
พ.ต.อ.เอนก กล่าวยืนยันแม้เหตุการณ์จะยังไม่เกิดขึ้น แต่ พ.ต.ท.บรรยิน มีเจตนาที่จะก่อเหตุจริง ก็ถือว่ามีความผิดต้องรับโทษ 1 ใน 3 ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเข้าไปแจ้งข้อหากับ พ.ต.ท.บรรยิน ภายในเรือนจำโดยตั้งขึ้นเป็นคดีใหม่ ทั้งนี้ตำรวจไม่ให้น้ำหนักคำให้การของลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยิน ที่ระบุว่า มีแผนวางระเบิดข้างเรือนจำ ก่อนล้มเสาธงและปีนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพราะสอบสวนอย่างละเอียดแล้วพบเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ โดยนายโจ คิดว่า พ.ต.ท.บรรยิน มีทีมงาน แต่เมื่อติดต่อไปยังอดีต ส.ส.เจ้าตัวก็ไม่ร่วมด้วย แผนการหลบหนีจึงเป็นเพียงแผนการคร่าวๆ เท่านั้น