ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่าผลกระทบของโรคโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจโลกปีนี้อาจหดตัวลงร้อยละ 3 ซึ่งแน่นอนว่าทุกประเทศนั้นจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาภายในประเทศของตนเองก่อน ประเทศไทยก็เช่นกัน ดังที่หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยนั้นพึ่งรายได้จากต่างประเทศมากเกินไป ทั้งในเรื่องของการส่งออก และการท่องเที่ยว ดังนั้นรัฐบาลจึงควรที่จะเร่งเดินหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เช่น ควรอัดฉีดเงินในระบบสาธารณสุขให้เพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโควิด-19 รอบ 2 และเปิดให้ประชาชนสามารถตรวจสอบการใช้เงินงบประมาณผ่านระบบออนไลน์ได้แบบตามเวลาจริง, ควรสร้างงานที่มีรายได้สูง เพื่อเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ, ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ธุรกิจต่างๆ (จากธนาคารภาครัฐถึงประชาชนโดยตรง) เพื่อเพิ่มกระแสการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก, ขนาดกลางและลูกจ้าง และรัฐควรมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่มีเป้าหมายชัดเจนและตรงจุด เพราะการแจกเงินอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเสมอไป ดังนั้นจึงควรที่จะตรวจสอบและวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงของประชาชน
ดังนั้นรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 เพื่อที่จะให้ประชาชนมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น