ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(ผบช.ก.) กล่าวถึงกรณี การดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการทำคดีพิพาทกรรมสิทธิล็อตเตอรรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ว่าหากการสืบสวนสอบสวนพบว่า มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จริง พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งตามขั้นตอน จะต้องร้องทุกข์ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) ก่อนทำสำนวนส่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ส่วนตำรวจอีก 4 นาย ที่กันไว้เป็นพยาน จะนำไปรวมกับพยานหลักฐานอื่น ๆ ยืนยัน ไม่มีการช่วยเหลือตำรวจด้วยกัน หากพบหลักฐานการกระทำผิด ก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น
ผบช.ก. กล่าวว่า กรณีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีคำสั่งให้ตำรวจผู้น้อยกระทำผิด เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่จะต้องแก้ไขเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ขณะที่กลุ่มที่สร้างความวุ่นวายในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล 30 ล้านบาท จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน โดยเฉพาะ กลุ่มที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว 2 คน กลุ่มตำรวจที่เกี่ยวข้องกันสถานที่เกิดเหตุ และกลุ่มกองเชียร์ของคู่ความทั้งสองฝั่ง หากพบพฤติกรรมที่มุ่งร้ายให้ผู้อื่นเดือดร้อน จะมีการพิจารณาความผิดอีกครั้ง
ผบช.ก.กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประชุมตำรวจทั่วประเทศในพื้นที่ ที่เกิดข้อพิพาทเรื่องล็อตเตอรรี่ เพื่อวางกรอบการทำงานในคดีเกี่ยวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลให้มีความชัดเจน โดยจะมีการถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้เกี่ยวกับคดี รวมถึง ปรับทัศนคติในการทำงาน เนื่องจากยอมรับว่า ที่ผ่านมาตำรวจหลายพื้นที่มีประสบการณ์ในคดีลักษณะนี้น้อย จึงต้องนำองค์ความรู้ทั้งหมดมาแลกเปลี่ยนกัน