เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงายว่า จากกรณีที่ บริษัท การบินไทย (มหาชน) จำกัด ประสบสภาวะขาดทุน และรัฐบาลเร่งเข้ามาแก้ปัญหา โดยวิธีเตรียมใช้มาตราการฟื้นฟูในรูปต่างๆ รวมถึงอาจจะมีสภาวะล้มละลาย ในเร็วๆนี้ นั้น ซึ่งในหุ้น บจม.การบินไทย นั้นได้มี สหกรณ์ของหน่วยงานต่างๆเข้ามาร่วมลงทุน ถึง 74 สหกรณ์ โดยในจำนวน สหกรณ์ ดังกล่าว ได้มี ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติจำกัด ได้ร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวน 97,206,026.50 บาท และสหกรณ์ออมทรัพย์ โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด ได้ร่วมลงทุนเป็นเงิน 768,844,500.00 บาท ซึ่งอาจทำให้สมาชิกสหกรณ์เกิดความกังวลใจต่อการลงทุนดังกล่าว สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น ส่งผลให้มีสมาชิกของสหกรณ์ฯเดินทางมาขอถอนเงินจำนวนมาก โดยทางสหกรณ์ให้ถอนได้ไม่เกินรายละ 300,000 บาท/คน/วัน
ทั้งนี้ 1 ในกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า สหกรณ์ฯตั้งมา 16 ปี ผ่านวิกฤตต่างๆมามากมายทั้งวิฤตต้มยำกุ้ง,สหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น โดยเฉพาะวิกฤตต้มยำกุ้งสถาบันการเงินหลายแห่งได้รับผลกระทบหมดแม้แต่รัฐบาลเองก็ย่ำแย่แต่เราก็ผ่านมาได้ และผลประกอบการที่ผ่านมาในช่วง7-8ปี สามารถทำกำไรให้สมาชิกได้เงินปันผลเฉลี่ยคืนได้มากกว่าสหกรณ์ฯอื่น ยืนยันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ รพ.ตำรวจ เป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ให้ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ( Tris Rating) เพื่อดูว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ ซึ่งมีได้ B+ ถือเเป็นแรตติ้งที่สามารถลงทุนได้ ในเครือตราสารหนี้ ดีกว่าบริษัมหาชนใหญ่ๆในตลาดหลักทรัพย์ด้วย ทั่งนี้ สหกรณ์ฯลงทุนกับการบินไทย(หุ้นกู้) 700 ล้าน ซึ่งสหกรณ์ใหญ่ๆทั่วประเทศก็ลงทุนกับการบินไทย ทีมีเรตติ้ง A และเป็นเครือรัฐวิสาหกิจซึ่งถือว่ามีมั่นคงและที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาสามารถจ่ายหนี้ ,จ่ายดอกเบี้ยได้ตามเวลา แต่เผชิญมาเจอภาวะวิฤตของการบินไทยที่มีปัญหาขาดทุนและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีปัญหาหนัก แต่ย้ำว่าสหกรณ์ฯร่วมลงทุนแค่ 700 ล้าน มีทุนสำรองเพียงพอสามารถครอบคลุมหุ้นส่วนนี้ได้หมด ดังนั้นไม่มีปัญหาถ้าหากหนี้ส่วนหนี้จะสูญหากล้มละลาย ไม่กระทบกับเงินฝาก,เงินปันผลสวัสดิการอื่นๆของสมาชิกแน่นอน
อย่างไรก็ตาม สมาชิกส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นในองค์กรฯ ส่วนคนที่มาถอนส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสมทบ ซึ่งทางสหกรณ์ฯย้ำว่าจะหาเงินมาคืนสมาชิกที่ต้องการถอนให้ครบ เพียงแต่ต้องขอเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะต้องดึงเงินที่ลงทุนจากที่อื่นรวมถึงที่ให้สหกรณ์อื่นกู้ มาเสริมสมาภาพคล่อง จึงขอสมาชิกว่าถ้าไม่แน่ใจและอยากถอนก็ยินดี แต่ถอนแล้วขอระยะเวลา และถอนได้ 300,000ต่อคน/วัน
ในส่วนของชุมชนสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันเช่นกันว่าสหกรณ์ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เพราะสหกรณ์เป็นเจ้าหนี้ของการบินไทย หากมีการนำเงินไปฟื้นฟูสหกรณ์ฯก็จะได้รับการชำระนี้ก่อนกลุ่มผู้ซื้อหุ้น ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วมีทั้งธนาพาณิชย์หลายแห่ง,กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข) ได้ซื้อหุ้นจำนวนมาก
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ทรงชัย สิมะโรจน์ประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด ได้มีประกาศ สอ.รพ.ครั้งที่ 23 / 2563 เรื่อง ชี้แจงกรณีการลงทุนในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)ระบุ ตามที่เป็นข่าวเผยแพร่ว่า สหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลตำรวจ จำกัด ลงทุนในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (A) ซึ่งอาจทำให้สมาชิกสหกรณ์ฯ เกิดความกังวลใจต่อการลงทุนดังกล่าวสหกรณ์ฯ ขอเรียนชี้แจงข้อมูลขัอเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ดังนี้
- สหกรณ์ฯ มีการลงทุนในหุ้นกู้ ตั้งแต่ 2555 และยุติการลงทุนในหุ้นกู้ A ตั้งแต่ พฤษภาคม 2562 ซึ่งปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีสินทรัพย์ ณ 30 เมษายน 2563 จำนวน 18,135 ล้านบาท
มีทุนสำรอง จำนวน 727 ล้านบาท มีเงินลงทุนในหุ้นกู้ THAI จำนวน 701 ล้านบาท ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อ ความมั่นคงของสหกรณ์ฯคณะกรรมการดำเนินการ ขอชี้แจงให้สมาชิกทราบว่าการซื้อหุ้นกู้ THAI เป็นการลงทุน ตามประกาศของคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ พ.ศ.2558 มาตรา 62(3) ซึ่งกำหนดให้สหกรณ์ฯ สามารถนำเงินไปลงทุนได้ โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งหุ้นกู้ที่จะซื้อนั้น ต้องมีเครดิตเรตติ้งที่ระดับ A ขึ้นไป โดยหุ้นกู้ THAI มีเครดิตเรตติ้งที่ระดับ A ซึ่งสูงกว่าการลงทุนที่ พรบ.สหกรณ์กำหนดที่ระดับ A- - THAI มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีรัฐบาลให้การสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอแก่ THAI อย่างต่อเนื่อง และไม่มีปัญหาเรื่องการชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ย จากประเต็นปัญหาสภาพคล่องของ THAI คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีมติ เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการTHAI เพื่อนำเสนอต่อ ครม, ต่อไป ประเด็นสำคัญได้แก่ กระทรวงการคลัง จะค้ำประกันหนี้THAI จำนวน 54,000บาท เพิ่มทุน จำนวน 80,000 ล้านบาท และปรับโครงสร้าง บริษัทใหม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการชำระหนี้
ทั้งนี้ สหกรณ์ฯ ยังมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะใช้ในการบริหารงาน และการดำเนินการต่างๆ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะแจ้งให้สมาชิกทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป ประกาศ ณ วันที่ 12 พฤษภาคม 2563