นอกจากนี้ นายพิธา ต้องระวังอย่าให้คนนอกพรรค ทั้งนายปิยะบุตร แสงกนกกุล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่อาจจะหวังใช้เวที กมธ.คณะนี้ล็อคเป้าโจมตีทำลายล้างทางการเมือง เพราะถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่านายธนาธรและนายปิยะบุตร ซึ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเข้ามาครอบงำพรรค และตัวนายพิธาจะสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ ชะตากรรมพรรคก้าวไกลคงไม่ต่างจากพรรคอนาคตใหม่
ตนอยากฝากถึงนายธนาธร ให้ปล่อยวางความแค้นอย่าฉวยโอกาสจากผู้ที่ผิดหวังจากการเยียวยาของรัฐบาล คำพูดของนายธนาธรที่กล่าวว่า “ให้เก็บความแค้นแปรเปลี่ยนเป็นพลัง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม” นี่คือการส่งสัญญาณถึงผู้สนับสนุนตนเองให้เตรียมพร้อมออกมาเคลื่อนไหวโดยอาศัยสถานการณ์นี้หวังสร้างกระแสเรียกคนออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลใช่หรือไม่ ดังนั้นจึงอยากฝากถึงประชาชนอย่าหลงไปเป็นเหยื่อความแค้น เพราะในภาวะหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลายคนไทยควรหันหน้าเข้าสู่ความร่วมมือร่วมใจในการร่วมฟื้นฟูประเทศชาติในทางที่ตนเองสามารถช่วยเหลือได้คนละเล็กละน้อยจะเหมาะสมกว่า