ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เป็นประธานแถลงคดีการสืบหาผู้เป็นเจ้าของตัวจริง กรณีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท. จรูญ วิมูล หรือ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ แม้ก่อนการแถลงศาลจะออกหมายจับ นายปรีชา และทางตำรวจได้ไปคุมตัวจาก จ.กาญจนบุรี เข้ามาสอบสวนที่กรุงเทพฯ แล้วก็ตาม
พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่า “ตำรวจจะเข้ามาดูแลในคดีอาญา ไม่มีหน้าที่ชี้ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริง เพราะเป็นเรื่องทางแพ่ง โดยคดีนี้เริ่มจากที่ ครูปรีชา ได้ร้องทุกข์ ร.ต.ท. จรูญ ว่ายักยอกทรัพย์และลักของโจร ก่อนจะไปฟ้องแพ่ง จากนั้น ร.ต.ท. จรูญ ได้ไปแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จกับครูปรีชา ซึ่งจากนั้น ร.ต.ท. จรูญ เชื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก สภ.เมืองกาญจนบุรี และตำรวจภาค 7 จึงมีการโอนคดีมาที่กองปราบปราม ก่อนจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาหาความจริง ใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ พร้อมระบุว่า ในไทยนั้นมีคดีทำนองนี้มาแล้ว 5 คดี ซึ่งหวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย โดยเปรียบคดีนี้เหมือนกีฬา ว่ามีแพ้ มีชนะ มีแต่ติดคุก ไม่มีเสมอแน่นอน”
พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่าไม่ขอชี้ชัดว่าใครคือเจ้าของสลาก โดยอ่านฎีกาเงื่อนไขการรับรางวัลที่ระบุไว้หลังสลากกินแบ่งว่า เงินจะแบ่งให้แก่ผู้ที่ถือสลากมาขอรับเงินรางวัล เป็นข้อกำหนดที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัลเท่านั้น ส่วนอัยการสูงสุด สลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ใดครอบครองก็จะเป็นเจ้าของ ซึ่งทรัพย์ที่ตกหล่นสูญหาย เจ้าของจะต้องแจ้งความต่อเจ้าพนักงานทันที แต่กรณีที่มีการร้องหลักออกเงินรางวัลจึงเป็นที่น่าสงสัย และหากไม่มีพยานหลักฐานพอ ผู้ที่ครอบครองสลากจึงมีความน่าเชื่อว่าจะเป็นเจ้าของสลากได้ดีกว่า ซึ่งจากนี้ต้องติดตามต่อไป โดยขณะนี้มีการออกหมายจับแล้ว 2 คนเท่านั้น ซึ่งจะยังมีการสอบสวนต่อไปแน่นอน
นอกจากนี้ ผบ.ตร. ยังได้อ่านฎีกา ระบุถึงเงื่อนไขการรับรางวัลไว้หลังสลากกินแบ่ง ระบุไว้ว่า เงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากเท่านั้น และระบุด้วยว่า หากสลากกินแบ่งรัฐบาลหล่นหาย จะต้องแจ้งความทันที มิใช่ให้ผลสลากฯ ออกก่อน จึงมาแจ้งความในภายหลัง
พล.ต.อ. จักรทิพย์ ยังได้กล่าวตอนท้ายว่า ฝากถึงประชาชน โดยแนะนำว่าควรเขียนรายละเอียดของตัวเองลงไปในสลากกินแบ่งด้วย เพื่อป้องกันการแอบอ้าง พร้อมทิ้งท้ายถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวของกับคดีหวย หรือ คดีอื่น ๆ ว่า ตำรวจชั่ว ตำรวจเลว ต้องให้ออกจากราชการเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจจะไม่กล่าวถึงรูปคดีให้กระทบกับศาล ซึ่งหลังการโอนคดีมานั้น ร.ต.ท. จรูญ ให้การโดยไม่มีพยาน ส่วนครูปรีชา มีพยานมาเบิกความต่าง ๆ ทางตำรวจจึงได้ไปสืบตามพยานหลักฐานที่ให้มา พบว่าคำกล่าวอ้างขัดแย้งกับหลักวิทยาศาสตร์ และนำมาซึ่งการออกหมายจับ ครูปรีชา และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ แม่ค้าลอตเตอรี่ดังกล่าว
และจากการที่ศาลออกหมายจับแล้วทำให้ทุกอย่างค่อนข้างชัดเจน แต่ก็เหนือความคาดหมายตำรวจเล็กน้อยที่ ครูปรีชา และนางรัตนาพร ไม่ได้หนีหลังถูกหมายจับ โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการขยายผล และทั้งคู่ก็ยังสามารถสู้คดีได้
พล.ต.ท. ฐิติราช ยังกล่าวกรณีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2559 มีคดีเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ครอบครองลอตเตอรี่ถึง 5 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่มีผู้หญิงอ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 สองครั้งแต่ถูกเพื่อนโกงไป รวมถึงเหตุการณ์ที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายต่อสังคม โดยมีเพียง 1 ใน 5 คดี ที่พบว่ามีการทำลอตเตอรี่ตกหล่นจริง คือกรณีที่ จ.สุพรรณบุรี เท่านั้น ซึ่งจากนี้ทางกองปราบ จะขอ ผบ.ตร. เพื่อเข้าไปดูแลคดีเกี่ยวกับลอตเตอรี่ทั้งหมดเพื่อทำให้เกิดความจริงต่อสังคม