กสิกรไทยจับมือ 2 เครือโรงแรมใหญ่ในภูเก็ต โรงแรมในเครือกะตะธานี และเครือกะตะกรุ๊ป นำร่องโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” ช่วยเหลือพนักงานที่มีรายได้น้ อย ให้มีงานทำ และลดภาระหนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ ได้ในภาวะวิกฤต เริ่มที่ผู้ประกอบการจังหวัดภู เก็ต 127 รายที่มีคุณสมบัติตามที่ ธนาคารกำหนด พร้อมตั้งงบช่วยเหลือ 100 ล้านบาท ช่วยพนักงาน 3,000 คน เป็นระยะเวลา 6 เดือน และเตรียมขยายผลไปยังจังหวัดอื่ น ๆ โดยตั้งเป้าใช้งบทั้งโครงการราว 500 ล้านบาท ช่วยพนักงาน 15,000 คน
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยและถือเป็ นครั้งแรกที่ได้รับผลกระทบกันทุ กคน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ พนักงาน และประชาชนทั่วไป ซึ่งหนทางที่จะช่วยให้พวกเราทุ กคนผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ คือ การร่วมมือร่วมใจ และให้การข่วยเหลือซึ่งกันและกั น จึงได้ริเริ่มโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” ขึ้นมา ซึ่งเป็นโครงการที่มีเจตนารมณ์ เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่มี รายได้น้อยให้สามารถอยู่รอดได้ ในสถานการณ์ตอนนี้ เป็นความร่วมมือระหว่ างธนาคารและธุรกิจ ด้วยการลดดอกเบี้ยและเพิ่มเงิ นทุนให้กับธุรกิจ เพื่อช่วยให้มีกำลังจ้างพนั กงานให้มีงานทำต่อเนื่อง มีรายได้ พร้อมช่วยลดภาระหนี้ต่าง ๆ
ผู้ประกอบการที่เข้าร่ วมโครงการในช่วงนำร่องมี 2 ราย คือ โรงแรมในเครือกะตะธานี และเครือกะตะกรุ๊ป ซึ่งทั้ง 2 รายเป็นเครือโรงแรมขนาดใหญ่ในจั งหวัดภูเก็ต และอยู่ในธุรกิจที่ได้รั บผลกระทบอย่างมากจากโรคโควิด-19 แต่ทั้ง 2 โรงแรมมีความรับผิดชอบในการดู แลพนักงานทุกคน โดยไม่มีการเลิกจ้าง หรือให้หยุดงานโดยไม่รับเงินเดื อน ในจังหวัดภูเก็ตมีผู้ประกอบการ 127 รายที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ซึ่งธนาคารใช้งบประมาณช่วยเหลือ 100 ล้านบาท ตั้งเป้าช่วยพนักงาน 3,000 คน เป็นระยะเวลา 6 เดือน
นายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมในเครือกะตะธานี เปิดเผยว่า ทุกวิกฤตที่ผ่านมาถือว่าเป็ นโอกาส ทำให้ภาคธุรกิจเอกชนได้เรียนรู้ และแข็งแกร่งขึ้น วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ มีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็ นอยู่ของประชากรโลก ทุกประเทศในโลกต้องเข้าสู่ยุ คการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข การแพทย์ การศึกษา และการบริหารจัดการประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมไว้ต่อสู้ กับวิกฤตต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา นับจากนี้ไปเป็นโอกาสดี ของคนไทยทุกภาคส่วนที่จะต้องทิ้ งความคิดแบบเดิม ๆ และวิถีเดิม ๆ เพื่อเตรียมตัวรับการเปลี่ ยนแปลง
นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหาร โรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป เปิดเผยว่า พนักงานเป็นทรัพย์สินอันทรงคุ ณค่าของธุรกิจ ไม่เคยคิดเลิกจ้างพนักงาน ในสถานการณ์ปกติพนักงานช่ วยทำงาน สร้างความมั่งคั่งให้ธุรกิจ ในยามเจอวิกฤตก็ต้องฝ่าฟันไปด้ วยกัน เพราะเชื่อมั่นว่ายามที่พนั กงานลำบาก แล้วเจ้าของไม่ทอดทิ้ง คอยประคับประคองให้เขาอยู่ได้ เมื่อวันที่โรงแรมกลับมาเปิดอี กครั้ง พนักงานทุกคนจะกระตือรือล้น มุ่งมั่นและรักในองค์กรมากขึ้น จึงอยากแนะนำให้องค์กรต่าง ๆ รักษาพนักงาน ช่วยเหลือและอย่าทอดทิ้ง ขณะนี้มีเพียงธนาคารแห่งเดียว คือ ธนาคารกสิกรไทยที่เล็งเห็ นความสำคัญของพนักงาน นี่คือคุณธรรมล้ำเลิศของผู้บริ หารธนาคาร
การช่วยเหลือภายใต้โครงการดั งกล่าว ธนาคารจะติดต่อลูกค้าผู้ ประกอบการเพื่อเชิญเข้าร่ วมโครงการ โดยมีรายละเอียดของมาตรการช่ วยเหลือทางการเงินทั้งด้านธุรกิ จและพนักงาน ดังนี้
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย กล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารคาดหวังว่าความช่วยเหลื อภายใต้โครงการนี้ จะสามารถช่วยเหลือพนักงานให้ผ่ านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้ และจะขยายผลโครงการไปยังจังหวั ดอื่น ๆ ต่อไป