หน้าแรกการเมือง'องอาจ' สับสน 'สนช.' ต้องการ 'กกต.' แบบไหน หลังคว่ำ 7รายชื่อที่คณะสรรหาเสนอ

‘องอาจ’ สับสน ‘สนช.’ ต้องการ ‘กกต.’ แบบไหน หลังคว่ำ 7รายชื่อที่คณะสรรหาเสนอ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่ สนช. ลงมติไม่เห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. ทั้ง 7 คน ว่าเป็นเรื่องที่แปลกเหมือนกัน ที่บุคคลซึ่งผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหามาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครที่เหมาะสมพอ ที่ สนช. จะเห็นชอบได้เลย ถ้าผลการลงมติออกมาว่ามีทั้งเห็นชอบและไม่เห็นชอบน่าจะสมเหตุสมผลมากกว่า

นายองอาจ กล่าวว่า การที่มีข่าวว่า สนช. ไม่เห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. ทั้ง 7 คน เพราะผู้ได้รับการสรรหาส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์ในการจัดการเลือกตั้งนั้น น่าจะไม่ใช่เหตุผลหลักในการพิจารณาเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ เพราะ กกต.เกือบทุกชุดที่ผ่านมา ก็มีทั้ง กกต. ที่มีประสบการณ์และไม่มีประสบการณ์ในการจัดสรรการเลือกตั้งคละเคล้ากันไป การที่ สนช. ไม่เห็นชอบ กกต. ทั้ง 7 คน คราวนี้ย่อมทำให้คณะกรรมการสรรหาทำงานยากลำบากมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่า สนช. ต้องการ กกต.แบบไหน ถ้า สนช. สามารถประชุมเป็นการภายในแล้วแจ้งให้คณะกรรมการสรรหาทราบว่าอยากได้ กกต. แบบไหนก็จะทำให้คณะกรรมการสรรหาทำงานได้ง่ายขึ้น

“ถึงแม้การสรรหา กกต. ชุดใหม่จะไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งช้าหรือเร็วโดยตรง เพราะถึงแม้ยังไม่มี กกต. ชุดใหม่ กกต. ชุดเก่าก็ยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปตามปกติจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ เข้ามาทำงาน แต่การได้ กกต. ชุดใหม่ล่าช้าออกไปมากเกินไป ก็อาจส่งผลทำให้การทำหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องทำให้การเลือกตั้งสุจริต และเที่ยงธรรม เกิดปัญหาได้ ถ้าสามารถสรรหา กกต.ชุดใหม่ได้ตามเวลาที่เหมาะสม ก็จะทำให้การทำงานของ กกต. ชุดใหม่มีเวลาเพียงพอในการสานงานต่อและก่องานใหม่ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย กกต.และ กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว. ” นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ กล่าวต่อไปว่าจากการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์กติกาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมืองรวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมืองที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งที่ประชาชนต่างตั้งความหวังอยากเห็นองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่จัดการการเลือกตั้งอย่าง กกต. ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม การได้มาซึ่ง กกต. จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีอำนาจไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องแทรกแซงโดยเด็ดขาด และไม่ควรมีการกระทำใดๆ ทั้งจากผู้มีอำนาจ และเครือข่ายที่ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยขึ้นได้ เพราะเมื่อสังคมเคลือบแคลงสงสัยการได้มาซึ่ง กกต.และการทำหน้าที่ของ กกต. ก็จะก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการเลือกตั้ง ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกไม่รู้จบ ส่งผลกระทบต่อการเดินหน้าประเทศไทยอย่างแน่นอน


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img