ส่วนวาระการประชุมที่น่าสนใจ นั้นคาดว่า จะมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น เพื่อพิจราณามาตราการเพิ่มเติม หลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปเกือบ 1 สัปดาห์ ที่มี จังหวัดภาคใต้ ทั้ง จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และภูเก็ต มีการประกาศปิดจังหวัด ห้ามเดินทางเข้า-ออก นอกจากนี้ ยังมีบางจังหวัดได้ประกาศกำหนดเวลาในการปิดร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าปลีก รวมไปงดจำหน่ายสุรา เพื่อควบคุมและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ จะรายงานสถานการณ์งบประมาณปี 2563 หลังจากงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นปี 2563 ขณะนี้มีรายจ่ายที่ผูกพันไว้ใกล้ครบ 96,000 ล้านบาทแล้ว หากรัฐบาลไม่ตัดสินใจใดอาจไม่มีงบใช้จ่ายในมาตรการใหม่เพื่อแก้ภัยแล้งและโควิด-19 ซึ่งการแก้ไขกรณีดังกล่าวมี 2 แนวทาง คือ 1.กระทรวงการคลังออก พ.ร.ก.กู้เงิน แต่มีหลายประเด็นต้องตีความ เช่น รัฐธรรมนูญ 2560 ให้อำนาจรัฐบาลออก พ.ร.ก.กู้เงินได้หรือไม่ 2.สำนักงบประมาณมีแผนสำรอง โดยขอให้ ครม.เสนอออกกฎหมาย
พ.ร.บ.โอนเงินงบประมาณจากส่วนราชการที่ไม่ได้ใช้ หรือใช้ไม่ทันมาไว้ที่งบกลาง ซึ่งปีที่ผ่านมาสำนักงบประมาณเสนอรัฐบาลชุดแล้วใช้วิธีการนี้ เพราะทำได้รวดเร็วจึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ครม.ว่า จะเลือกแผนใดเพื่อเติมงบกลาง
ทั้งนี้ วันนี้ยังเป็นวันแรกที่สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือสำนักข่าวต่างๆ งดส่งผู้สื่อข่าวเข้าทำเนียบ ตามมาตราการความปลอดภัย จากกรณีเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย