เมื่อวันที่ 24 ม.ค. คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 1/2563 เรื่อง ให้ข้าราชการรักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2562 ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2562 สั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากการเป็นข้าราชการตำรวจ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในกรอบอัตรากำลัง ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรี ตามมาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้ที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้รับเฉพาะเงินเดือน โดยไม่ได้รับงินประจำตำแหน่งและสิทธิประโยชน์ประจำตำแหน่ง นั้น
เพื่อให้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ และเพื่อให้การปฏิบัติงานของข้าราชการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาศัยอำนาจตามข้อ 1 (ค) ของบัญชี ห้าท้ายคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 9/2562 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2562 มาตรา 87 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1011/ว 12 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2556 นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งจึงเห็นสมควรกำชับให้ พลตำรวจโท สรเชษฐ์ หักพาล รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุ ดังต่อไปนี้
1. ไม่กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ไม่ปฏิบัติราชการอันเป็นการกระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน ไม่อาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ไม่ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ ไม่กระทำการอันเป็นการกลั่นแกล้ง กดขี่ ข่มเหงกันในการปฏิบัติราชการ ไม่ดูหมิ่น เหยียดหยามประชาชน
2 ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ของทางราชการ ด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ อุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ รักษาความลับของทางราชการ มีความสุภาพ เรียบร้อย รักษาความสามัคคี ช่วยเหลือการปฏิบัติราชการระหว่างข้าราชการด้วยกันและผู้ร่วมปฏิบัติราชการ
ทั้งนี้ ให้ข้าราชการดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ให้งดการมอบหมายงานพิเศษและสำคัญ และหากมีกรณีไม่รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยต่อไป ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลงวันที่ 24 ม.ค.2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่าคำสั่งดังกล่าวออกมาหลังจากมีคำสั่งย้าย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.