หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมกองปราบจับ เครือข่ายขนกัญชาเพิ่ม พบประวัติอื้อเช่นกัน

กองปราบจับ เครือข่ายขนกัญชาเพิ่ม พบประวัติอื้อเช่นกัน

วันที่ 18 มค.2563 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ,พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป., พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย สว.กก.5.บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป.

ได้ร่วมกันจับกุม นายบุญเกียรติ หรือตน มุสาเหม อายุ40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหนองบังลำภู ที่ 1/2563 ลงวันที่ 8 ม.ค.2563 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ”
จับกุมได้ หน้าบ้านเลขที่ 90/2 ม.14 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2563

ทั้งนี่ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พ.ย. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีบุญเรือง ตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติกสีเทา ได้ที่บริเวณป่าอ้อย ต.เมืองใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู และทำการสืบสวนทราบว่า มีผู้ขับรถขนส่งรายหนึ่งถูกหลอกให้ไปขนส่งผ้าไหม โดยนัดให้ไปรับสินค้าที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม เมื่อรับสินค้ามาแล้ว ตรวจสอบสินค้าพบว่าเป็นกัญชา เกรงว่าจะมีความผิดจึงนำไปทิ้งไว้ในป่าอ้อยดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนต่อมา จนทราบว่านายธิปพนธ์ฯ และภรรยา เป็นผู้เช่าห้องที่รีสอร์ทดังกล่าว และจะฝากกล่องพลาสติกสีเทาให้คนมารับไป จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดหนองบัวลำภูเพื่อออกหมายจับนายธิปพนธ์ และภรรยา

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ได้นำกำลังลงพื้นที่ติดตามจับกุมนายธิปพนธ์ฯ ได้ที่ จ.นครนายก ซึ่งนายธิปพนธ์ฯ รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของกล่องพลาสติกที่ภายในบรรจุกัญชาอัดแท่งดังกล่าวจริง โดยมีนายบุญเกียรติฯ ผู้ต้องหาเป็นนายทุน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออนุมัติศาลจังหวัดหนองบัวลำภูเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหามาดำเนินคดี

จนกระทั่ง วันที่ 17 ม.ค. 2563. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สืบทราบว่า ผู้ต้องหา หลบหนีการจับกุมมาอยู่พื้นที่ ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังติดตามจับกุม โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่หน้าบ้านใน จ.นครศรีธรรมราช จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีบุญเรือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าผู้ต้องหาเคยต้องโทษคดีครอบครองปืนไม่มีทะเบียน เมื่อปี 2555, คดีพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปี 2558, คดีครอบครองปืนไม่มีทะเบียน และครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย(พืชกระท่อม 500 กิโลกรัม) เมื่อปี 2559


 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img