เคทีซีรุกปี 2020 ผลักดันแพลทฟอร์มการเงินหลักเคียงข้างคนไทย ยกระดับเป็นองค์กรคล่องตัว (Agile Organism)

เคทีซีมั่นใจปี 63 กำไรยังเติบโตดีกว่าอุตสาหกรรม พร้อมโตก้าวกระโดดในปี 65 ตั้งเป้าสมาชิกบัตรเครดิต 350,000 ใบ บัตรกดเงินสด 210,000 ใบตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรโต 15% เบ็งออกหุ้นกู้อีก 30,000 ล้านบาท เผยกลยุทธ์มุ่งสร้างแพลทฟอร์มการชำระเงิน (Payment Platform) และแพลทฟอร์มสินเบื่อรายย่อย (Retail Lending Platform) ทั้งสร้างกลไกขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ 5 องค์ประกอบ คือ กลยุทธ์ โครงสร้าง กระบวนการ คนและเทคโนโลยี เพื่อกว้าสู่ความเป็น “องค์กรคล่องตัว” หรือองค์กรที่มีขีวิต ไม่หยุดนิ่ง พัฒนา ปรับตัว และเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพื่อให้เท่าทันสภาวะการณ์ภายนอก และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หยุดนิ่งนายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บัตรกรุงไทยกำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เทคโนโลยีดิจิทัลที่รวดเร็วได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจและวิถีชีวิตของผู้คนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งลักษณะความต้องการของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เคทีซีต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นในอัตราเร่ง เพื่อให้ธุระกิจดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยจากนี้ไปจะมุ่งสร้างธรุกิจให้เติบโตด้วยวิสัยทัศน์ใหม่สู่การเป็นแพลตฟอร์มการเงินหลักที่อยู่เคียงข้างสังคมไทยและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ด้วย 2 แพลทฟอร์ม คือ แพลทฟอร์มการชำระเงิน และ แพลทฟอร์มสินเชื่อรายย่อย ที่มุ่งเน้น 3 จุดแข็งหลัก คือ ปลอดภัย รวดเร็ว และสร้างประสบการณ์ที่ดี เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิกและคนไทย เพื่อรองรับการขยายธรุกิจใหม่เจ้าไปในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันและธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพิ่มจากธุรกิจและสินเชื่อบุคคลที่มีอยู่ ซึ่งจะทำให้เคทีซีสามารถนำเสนอสินเชื่อให้กับผู้บริโภคได้หลากหลายและครบวงจร ทั้ง “สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน” “พิโกพลัส” (สินเชื่ออเนกประสงค์ที่ให้กับรายย่อยระดับจังหวัด) และ ธุรกิจ “นาโนไฟแนนซ์” (สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้มีรายได้ไม่แน่นอน) ซึ่งทยอยเปิดให้บริการแล้ว และคาดว่าทั้ง 3 ธุรกิจใหม่นี้ จะสามารถเรื่มรับรู้กำไรได้ประมาณ 18-24 เดือน นับตั้งแต่วันที่ดำเนินธุรกิจจริง

นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัว แต่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตเคทีซีสามารถโตได้ถึง 10% หรือประมาณ 150,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปี 2019 จะสามารถรักษาสัดส่วนการเติบโตของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยรวมที่ประมาณ 10 % สำหรับในปี 2020 ยังคงเติบโตที่เป้าหมาย 15 % โดยแนวคิดการทำตลาดบัตรเครดิตเคทีซีที่กำหนดไว้ คือ “Everyone everyday , and everywhere” ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้บัตรเคทีซีเป็นบัตรที่สามชิกเลือกใช้ทุกวันและทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์หรือการใช้จ่ายที่ร้านค้าในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม โดยนอกจากการมุ่งเน้นความคุ้มค่าผ่านคะแนน KTC FOREVER แล้ว ยังให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับสมาชิก ทั้งสร้างความมั่นใจ ความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้บัตร รวมถึงการสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิก รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยควบคู่ไปกับความรู้และประสบการณ์ของทีมการตลาดเพื่อสร้างความแตกต่าง ทั้งนี้ เคทีซี ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายพันธมิตรร้านค้าให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของสมาชิกให้มากที่สุด รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางการสื่อสารมากขึ้น เพื่อสมาชิกบัตรได้รับทราบข้อมูลที่ตรงใจ มีประโยชน์ และไม่พลาดโปรโมชั่นดีๆ จากเคทีซี”

นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวยการ – ธุรกิจสินเขื่อบุคคล “เคทีซี” กล่าวว่า “แผนกลยุทธ์ธุรกิจสินเชื่อบุคคลในปี 2020 คือ “มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน “ โดยจะเพิ่มปริมาณสินเชื่อพร้อมการสร้างคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้นใน 4 แกนหลัก คือ

1).มุ่งหาสมาชิกใหม่ที่มีความต้องการสินเชื่อเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เนื่องจากการใช้วงเงินอย่างมีวัตถุประสงค์แสดงถึงการวางแผนเพื่อความก้าวหน้าในชีวิตและวินัยทางการเงินที่ดี โดยตั้งเป้าเพิ่มปริมาณลูกค้าและพันธมิตรในกลุ่มสินเชื่อเพื่อการศึกษาให้มากขึ้น

2).มุ่งรักษาฐานสมาชิกปัจจุบันให้มีความผูกพันกับเคทีซีและเป็นบัตรที่ลูกค้านึกถึงเป็นใบแรก โดยแบ่งเบาภาระการใช้จ่ายสมาชิกที่มีวินัยการชำระเงินที่ดี ผ่านแคมเปญโดนใจสมาชิกตลอดการ เช่น โครงการเคลียร์หนี้เกลี้ยง โครงการเมาเหมาจ่ายดอกเบี้ยเพียง 199 บาท รวมทั้งวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อนำเสนอโปรโมชั่น ที่สมาชิกต้องการอย่างแท้จริง

3).มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจขั้นสูงสุด ด้วยบริการใหม่ เพิ่มวงเงินฉุกเฉินที่สามารถทำรายการด้วยตนเองตลอด 24 ชั่วโมง อนุมัติรับวงเงินทันทีเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของลูกค้าให้มากขึ้น พัฒนาบริการเบิกเงินสดออนไลน์ผ่านแอปฯ “KTC Mobile “ ตลอด 24 ชั่วโมง แบบเรียลไทม์ และจัดการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานบัตรกดเงินสด”เคทีซี พราว” ให้ตอบสนองไลฟสไตล์ของสังคมไร้เงินสดที่ผู้บริโภคสามารถใช้บัตรได้ทุกที่ และทุกเวลา

4).มุ่งสร้างขีวิตที่ดีให้ลูกค้า เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และเติบโตไปพร้อมกัน โดยสร้างวินัยทางการเงินผ่านกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ (Financial Literacy) และบทความที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบของสื่อที่เข้าใจง่าย รวมทั้งการต่อยอดการจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปแบ่งปันความรู้เพื่อประกอบอาชีพพร้อมให้คำแนะนำด้านการลงทุนเพื่อนำไปสร้างรายได้ในอนาคต

นายปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส – ช่องทางการจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้า “เคทีซี” กล่าวว่า “กลยุทธ์การขยายฐานสมาชิกในปี 2020 น่าจะเป็นความท้าทายและสร้างโอกาสที่ดีให้กับเคทีซีด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความหลากหลายและครบวงจรมากขึ้น จะสามารถนำเสนอทางเลือกของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายย่อยได้อย่างครอบคลุม โดยตั้งเป้าสมาชิกบัตรเครดิตใหม่ 350,000 ใบ และ บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” 210,000 ใบ รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “สินเชื่อเคทีซีพี่เบิ้ม” ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ สินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์และสินเชื่อเงินสด สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของเคทีซีจะยังคงเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำ 30,000 บาทขึ้นไป โดยมุ่งเน้นช่องทางการรับสมัครผ่านทางออนไลน์มากขึ้น และสร้างประสบการณ์ชีวิตที่ดีให้กับสมาชิกทุกรายที่สนใจสมัครผลิตภัณฑ์เคทีซี ส่วนช่องทางหลักในการสรรหาสมาชิกสินเชื่อผ่านธนาคารกรุงไทย และผู้แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินเคทีซีอิสระ (Outsource Sales) จะเร้นการเพิ่มจำนวนและศักยภาพตัวแทนขายให้สูงขึ้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่านอกเหนือจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องชัดเจนแล้ว จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่กีให้กะบสมาชิกต่อไป”

“สำหรับกลยุทธ์การขยายพันธมิตรร้านค้าในปี 2020 จะมุ่งนำเสนอบริการรับชำระที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้าและกลุ่มธุรกิจต่างๆเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท โดยจะให้ความสำคัญกับตลาดการผ่อนชำระ “KTC FLEXI” ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการขยายฐานร้านค้าในกลุ่มต่างๆ

โดยเฉพาะร้านค้าอาลีเพย์ (Alipay) ทั้งออฟไลท์และออนไลน์ เพื่อรองรับการจับจ่ายของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในประเทศไทย และกลุ่มชาวจีนที่พักอาศัยในไทย รวมทั้งการนำเสนอ Payment Solution ใหม่ๆเพื่อรุกเข้าร้านค้าออนไลน์ โดยเน้นถึงความปลอดภัยในการทำธุรกรรมที่ได้มาตรฐานสากลและความรวดเร็วเป็นสำคัญรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจ E-commerce และ Social Commerce รวมถึงการพัฒนาการให้บริการและนวัตกรรมการรับชำระใหม่ๆเพื่อสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจร้านค้าเปลี่ยนมารับชำระด้วยบัตรเครดิต แทนการชำระด้วยเงินสดแบบเดิม เพื่อสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมไร้เงินสด นอกจากนี้ บริษัทยังจะเดินหน้าความร่วมมือมือกับธนาคารกรุงไทย เพื่อต่อยอดการขยายโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับเคทีซีอีกทางหนึ่ง”

นายชุติเดช ชยุติ ซีเอฟโอ “เคทีซี” กล่าวว่า บริษัทยังคงมีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็ง โดยคาดว่าสิ้นปี 2019 จะสามารถทำกำไรได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่เคยเปิดเผยไว้ด้วยฐานสมาชิกบัตรที่มากขึ้น พอร์ตลูกหนี้มีคุณภาพ และการควบคุมต้นทุนการเงินที่ดี สำหรับกลยุทธ์การบริหารการเงินของเคทีซีในปี 2020 บริษัทฯ จะมุ่งประกอบธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการบริหารต้นทุนเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการหาต้นทุนที่ต่ำและเพิ่มสัดส่วนของเงินกู้ระยะยาวมากขึ้น โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะยังรักษาระดับทรงตัวไว้เช่นนี้ เคทีซี จึงมีแผนจะระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ระยะยาว 5-10 ปี เพื่อทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดและรองรับการขยายตัวของธุรกิจใหม่อีกประมาณ 11,000 ล้านบาท โดยคาดจะมีต้นทุนเงินอยู่ที่ประมาณ 3.09% ทั้งนี้ วงเงินสำหรับออกหุ้นกู้ที่เคยขอผู้ถือหุ้นกู้ไว้เมื่อปี 2017 คงเหลือเพียง 12,000 ล้านบาท ในปี 2020 จึงมีแผนที่จะขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพิ่มวงเงินอีก 30,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมพร้อมรับมือกับมาตรฐานการรายงานการเงินสากล (Intermational Financial Reporting Standdards:IFRS9) ที่กำลังจะนำมาใช้ โดยมรการตั้งสำรองเงินไว้แล้วในปริมาณที่มากพอและสำรองส่วนที่เกินอยู่จะเก็บไว้เป็นสำรองต่อไป ทั้งนี้ ก่อนจะมีการประกาศงบการเงินในไตรมาสที่ 1/2020 บริษัทจะจัดประชุมร่วมกับนักวิเคราะห์เพื่ออธิบายความต่างและแสดงรายงานตัวเลขตามงบการเงินเดิมเปรียบเทียบไว้ในบทวิเคราะห์และคำอธิบายของฝ่ายจัดการดำเนินงานฐานะการเงิน (Management Discussion and Analysis: MD&A)” ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 เคทีซี มีกำไรสุทธิ 4,205 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมเท่ากับ 79,618 ล้านบาท (ขยายตัว 9%) ฐานสมาชิกรวม 3.43 ล้านบัญชี (เติบโต 6%) แบ่งเป็นบัตรเครดิต 2,460,595 บัตร (ขยายตัว 7%) พอร์ตลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 51,137 ล้านบาท(ขยายตัว 10%) อัตราเติบโตของปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 9 เดือน อยู่ที่ 10.4% NPL รวม ลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ 1.07% NPL บัตรเครดิต อยู่ที่ 0.96% สินเชื่อบุคคล 973,356 บัญชี(ขยายตัว 5%) ยอดลูกหนี้ สินเชื่อบุคคลรวม 28,219 ล้านบาท (เติบโต 9%) NPL ของสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 0.83%