นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมพูดคุยในรายการ ต้องถาม ทางสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ ดำเนินรายการโดย อัญชะลี ไพรีรัก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับเรื่องอีสานโพลว่า สิ่งที่สะท้อนออกมา ข้อที่ 1 ต้องยอมรับว่าความนิยมที่ประชาชนมีต่อพรรคเพื่อไทยยังมีอยู่สูง แม้จะลดลง แสดงว่าประชาชนยังมีความพึงพอใจบางอย่างกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งคงเปรียบเทียบกับสภาพปัจจุบันโดยเฉพาะชัดเจนที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันก็เริ่มมีความรู้สึกว่า พรรคเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลแบบเดิมๆ นั้นไปไม่รอด คือเป็นแล้วในที่สุดเกิดปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่น เกิดการประท้วง เกิดความขัดแย้ง ดังนั้นคำถามอื่นๆ ที่ตามมา ก็กำลังจะบอกว่า ถ้าอย่างนั้นหากเอาเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลกับคนอื่น ก็อาจจะมีทั้งบางคนที่ยอมรับว่าเพราะไปทุจริต คอร์รัปชั่น ทำให้เกิดปัญหา หรืออาจจะมีอีกกลุ่มนึงที่เชื่อบอกว่า ไปเป็นคนเดียวแล้วก็ถูกกลั่นแกล้ง ดังนั้นตนจึงไม่แปลกใจว่า คำตอบอื่นๆ ต่อคำถามอื่นๆ จึงมาในทำนองที่ว่า ก็เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เอาเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลกับคนอื่น
ต่อคำถามเรื่องสูตรรัฐบาลผสม นายอภิสิทธิ์มองว่า 1. รัฐบาลแห่งชาติ มันต้องเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เรียกว่าพิเศษจริงๆ ถ้าจะมี ก็ไม่ใช่ลักษณะที่จะอยู่ได้ยาว เพราะเป็นรัฐบาลที่ไม่มีการตรวจสอบ ทุกพรรคการเมืองเป็นรัฐบาลหมด ไม่มีฝ่ายค้าน แต่ตนยืนยันว่าการตรวจสอบโดยการมีฝ่ายค้าน ยังไงก็เข้มข้นว่าการที่จะตรวจสอบกันเองในรัฐบาล
และปัญหาที่น่ากลัวก็คือ หากเป็นอย่างนั้นแล้ว สมมติว่ามีเรื่องอื้อฉาวขึ้น แล้ว ประชาชนเกิดความไม่พอใจ แล้วจะเหลือใคร มันจะกลายเป็นความเสื่อมศรัทธา ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงมาก
ส่วนในเรื่องรัฐบาลผสมระหว่างประชาธิปัตย์ – เพื่อไทย ตนพูดมานานแล้วว่า ถ้าอุดมการณ์ของพรรคการเมืองไม่ตรงกัน ก็ไม่ควรจะไปร่วมกัน ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า 1. อุดมการณ์ไม่ตรงกัน มันไปด้วยกันไม่ได้ 2. พรรคเพื่อไทยในความเห็นของเรา ตราบเท่าที่ยังไม่ก้าวพ้นจากเงาของครอบครัวชินวัตร ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไปร่วมงานด้วย เพราะเราไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถเอาประโยชน์ส่วนรวมมาก่อนประโยชน์ของกลุ่ม ของพวก หรือของครอบครัว
ส่วนที่บอกว่าประชาธิปัตย์ ทำไมบางทีพูดเหมือนกับเพื่อไทยนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของความเห็นที่อาจจะตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง การที่อุดมการณ์ไม่ตรงกัน แล้วเกิดมีความเห็น หรือพูดตรงกันในบางเรื่อง มันก็ไม่ใช่แปลว่าจะไปรวมกันได้
“สมมติเพื่อไทยเขาบอก 2+2 เท่ากับ 4 ผมบอกอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ผมต้องไปหาคำตอบอื่นหรือเปล่า – มันก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นถ้าบางเรื่องมันจะพูดตรงกัน ไม่ได้แปลว่าจะไปรวมกัน หรือจะไปร่วมกัน ก็เป็นเพียงแต่ว่าความเห็นในเรื่องนั้นมันตรงกันเท่านั้นเอง” นายอภิสิทธิ์กล่าว