ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามภายใต้การอำนวยการของ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม, พ.ต.ท.ยุทธิวัสส์ กล่ำกล่อมจิตร์, พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ, พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป.
พ.ต.ต.จักรี กันธิยะ สว.กก.4 บก.ป.
ได้ร่วมกันจับกุม นายอุทิน พรพจน์ธนมาศ อายุ 48 ปีผู้ใหญ่บ้านในอ.ศรีราชา อยู่บ้านเลขที่ 408/39 หมู่ 7 ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1082/2561 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2561ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มียุทธภัณฑ์ (รถยนต์นั่งกันกระสุน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้บริเวณ ริมถนนบ้านค่าย-ระยอง หน้าโรงเรียนเขาคันทรง ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุบุรี ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2559. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 .กองปราบปรามได้รับการประสานจากตำรวจทางหลวงที่ได้ตั้งจุดสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติด อยู่บริเวณถนนพหลโยธิน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ได้มีรถยกซึ่งบรรทุกรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน พร 3834 กทม ขับฝ่าด่านตรวจไปอย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการไล่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าว
และ
ได้ยึดรถยนต์กระบะสี่ประตู สีบรอนซ์ ยี่ห้อโตโยต้า คันหมายเลขทะเบียน พร 3834 กทม จากการตรวจสอบ ของตำรวจ กก.4 บก.ป ได้สืบสวนทราบว่า รถยนต์กระบะคันดังกล่าวมีลักษณะพิเศษคือ มีอุปกรณ์ห่อหุ้มป้องกันการกระแทกรอบคัน สามารถป้องกันกระสุนปืนได้ สันนิษฐานว่า จะนำไปใช้ในการขนยาเสพติดทางภาคเหนือ จากการตรวจสอบเจ้าของเบื้องต้นพบว่า มีประวัตเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดหลายคดีด้วยกัน จึงสืบหาที่มาของรถยนต์กระบะคันดังกล่าว กระทั่งพบว่า มีนายแดง (นามสมมุติ) ได้รับซื้อมาจาก นายอุทินฯ และนาย อุทินฯ ก็ได้รับซื้อรถยนต์กระบะคันดังกล่าว มาจาก นายดำ (นามสมมุติ) จากการสืบสวนรถยนต์กระบะคันหมายเลขทะเบียนดังกล่าว มีลักษณะแต่งเติมส่วนประกอบที่แข็งแรง เช่น ทำที่ครอบแบตเตอรี่ หม้อน้ำ ส่วนกระจกหน้าและรอบคันจะใช้กระจกใสอะครีลิค หนาประมาณ 4 นิ้ว ดัดแปลงแทนกระจกปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป จึงอนุมัติขอหมายจับผู้ต้องหา รวมทั้งหมด 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้น คือนายอุทินฯ ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อำเภอศรีราชา มาดำเนินคดี
กระทั่งวันที่11 ต.ค.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้สืบทราบว่า นายอุทินฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ได้หลบหนี ไปอยู่ที่เขตพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดชลบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและจับกุมตัวได้ในที่สุด
ภายหลังจับกุม นายอุทินฯ ได้ให้การรับว่าได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากนายดำ (นามสมมุติ) เพราะเห็นว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีกระจกหนากว่ารถยนต์ทั่วไปปกติ จึงขอซื้อมาในราคา 600,000 บาท เพื่อนำมาใช้ส่วนตัวและในงานปราบปราม ยาเสพติดในพื้นที่ ต่อมามี นายแดง (นามสมมุติ) ได้มาขอซื้อต่อ จึงขายไปในราคาเท่าทุน โดยนายอุทินฯ ไม่ทราบว่า นายแดง (นามสมมุติ) เคยมีประวัติเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่รู้เรื่องว่า นายแดง จะนำรถยนต์คันดังกล่าวไปก่อเหตุขนยาเสพติดแต่อย่างไร