ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากประเด็นที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ประณามการฆาตกรรมสัตว์ป่า โดยเปรียบเทียบ กับกรณี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 โดยกล่าวว่า “ประณามการฆาตกรรมสัตว์ป่า สนับสนุนทุกการเรียกร้องให้ดำเนินคดีคนทำผิดอย่างถึงที่สุด ตรงไปตรงมาและอยากเรียนเพิ่มเติมว่า มีคนมือเปล่าอีกเกือบร้อยชีวิตถูกยิงตายกลางเมืองหลวง ยังไม่ได้รับความยุติธรรม”
ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นเหตุให้ รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร หนึ่งในผู้ที่เคยขึ้นปราศรัยบนเวทีกปปส. ออกมาโต้ตอบด้วยการ โพสต์กลอนผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ภายใต้ชื่อเรื่องว่า “โหนกระแส” โดยระบุว่า
โหนกระแส แห่ประจาน สันดานเถื่อน
เรื่องไม่เหมือน โหนให้เหมือน เถื่อนสถุน
มีความเลว ความฉ้อฉล เป็นต้นทุน
สามานย์หนุน ทุนสามานย์ หว่านพืชพันธุ์
โยงเสือดำ นำเสื้อแดง ตะแบงเชื่อม
หวังกระเพื่อม เชื่อมกระพือ กระสือปั่น
เคยปากเก่ง เกาะกระโจน โหนทันควัน
พวกปากมัน คันปาก อยากตะกาย
มาโยงโหน ตะโกนแหก กระแทกติ่ง
ดั่งผีสิง สำราก ปากมักง่าย
“เกือบร้อยคน มือเปล่า ถูกยิงตาย
ยังรอบท กฎหมาย เหมือนเสือดำ”
คือผลจาก หยักสมอง ที่ตรองไตร่
ผู้เคยได้ ครองเก้าอี้ จนพลีหนำ
ผู้บิดเบือน เถื่อนถ่อย คอยชี้นำ
ที่บอกย้ำ ยุให้เผา เถ้าธุลี
อย่าหอนเห่า เข้าโหน แบบโจรหิว
เมื่อถึงคิว ก็อย่า หลบหน้าหนี
เรื่องเสือดำ มีเหตุป้อง ฟ้องคดี
เพราะเสือดี ไม่เผาห้าง เหมือนบางคน