นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว กล่าวว่า เยาวชนคนหนุ่มสาวกำลังกำหนดอนาคตของตัวเอง เมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้ว เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธพึงได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนู หากจะจำกัดเสรีภาพของประชาชนก็ต้องอาศัยกฎหมายที่บัญญัติขึ้นโดยกระบวนการที่ประชาชนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมและให้ความเห็นชอบ ไม่ใช่ใช้คำสั่งของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลผู้มีอำนาจ ที่พูดอะไรสั่งอะไรก็เป็นกฎหมายไปหมด การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องใช้อย่างเป็นธรรม ไม่ใช่ตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจ อยากจะบอกว่ากิจกรรมอะไรผิดกฎหมายก็ผิด บอกว่าไม่ผิดก็เป็นอันไม่ผิด การที่ประชาชนเรียกร้องให้คสช.คืนอำนาจและให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วก็ดี รณรงค์ เพื่อสิทธิประโยชน์ของพลเมืองก็ดี หรือเพื่อแก้ปัญหาปากท้องก็ดี เป็นสิ่งที่ได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลคสช.ควรเลิกใช้การตั้งข้อหาร้ายแรงเกินกว่าเหตุและหาทางคุมขังประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนคนหนุ่มสาวและผู้ที่ต่อสู้เรียกร้องด้วยสติปัญญาทั้งหลาย รัฐบาลคสช.ควรเลิกใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือคุกคามทำร้าย เพื่อขัดขวางการแสดงออกที่ชอบธรรมของพวกเขาได้แล้ว ในเมื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศก็อยากให้คสช.คืนอำนาจโดยเร็ว ใครๆก็บอกว่าอยู่กันไปอย่างนี้ เศรษฐกิจมีแต่จะแย่ลง ไม่ไหวแล้ว ยิ่งช่วงหลังมีเรื่องฉ้อฉลอื้อฉาวเกิดขึ้นไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อนด้วย ก็ยิ่งไปกันใหญ่ เวลานี้ไม่ว่าโพลล์สำนักไหนไปถามประชาชน ก็ได้คำตอบเหมือนๆกัน แล้วการแสดงออกของประชาชนที่ต้องการให้คสช.คืนอำนาจให้ประชาชนและจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วตามสัญญา จะกลายเป็นการชุมนุมมั่วสุมทางการเมืองที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายและกระทบต่อความมั่นคงไปได้อย่างไร คนที่เดือดร้อนก็เห็นจะมีแค่คสช.กับพวกเท่านั้น เป็นการดีแล้วที่เยาวชนคนหนุ่มสาวกำลังจะทำหน้าที่กำหนดอนาคตของชาติ ซึ่งก็คือ อนาคตของพวกเขาเอง จะให้เขาปล่อยให้อนาคตของพวกเขาถูกกำหนดล่วงหน้าและถูกกำกับต่อไปโดยคสช.ที่ไม่มีความรู้ประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมืองไปอีกเป็น 10-20 ปีได้อย่างไร
“ถ้าการรับฟังความคิดเห็นเป็นเรื่องฝืนนิสัยของตนเองเกินไป อย่างน้อยคสช.ก็ควรรู้จักอยู่เฉยๆเสียบ้าง อย่าไปทำร้ายคนที่เขาหวังดีต่อชาติบ้านเมืองอย่างที่ทำมาตลอดอีกเลย” นายจาตุรนต์ กล่าว