เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) น.ส.สมจิตร สืบวงศ์นิรัตน์ อายุ 62 ปี พร้อม น.ส.สมหมาย สืบวงศ์นิรัตน์ น้องสาว นำเอกสารหลักฐานที่ถูกเจ้าของโรงงานกลึงโลหะ ย่านบางขุนเทียน กทม. แจ้งความดำเนินคดีฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน มายื่นขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ว่า เป็นการแจ้งข้อหาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยมี พ.ต.ท.สมชาติพิทักษ์ชาติภิญญโญ รองผกก.สำนักงาน ก.ต.ช.ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการเป็นผู้รับเรื่อง
น.ส.สมจิตร กล่าวว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่ตนเองและน.ส.สมหมาย ได้ไปฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางให้ตรวจสอบกรณีพิพาทกับโรงงานกลึงโลหะ ที่ปล่อยมลพิษ โดยเป็นการฟ้องเจ้าหน้าที่และหน่วยงานรัฐ อาทิ ผู้ว่าฯ กทม. ผู้อำนวยการเขตจอมทอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรุงเทพมหานคร และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปล่อยปละละเลยให้มีการจัดตั้งโรงงานและปล่อยน้ำเสียเข้ามาบริเวณที่อยู่อาศัย ซึ่งต่อมาศาลปกครองตัดสินคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้โรงงานปล่อยมลพิษอีก แต่โรงงานก็ยังฝ่าฝืน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมมลพิษในโรงงานอุตสาหกรรม ก็ปล่อยปละละเลย ตนเองจึงโทรศัพท์ไปแจ้ง ที่สายด่วน 1555 ของกรุงเทพมหานคร แต่หลังจากนั้น กลับถูกเจ้าของโรงงานไปแจ้งความดำเนินคดีตนเองที่สน.สำราญราษฎร์ ในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน โดยกล่าวหาว่า ที่ตนเองไปแจ้งข้อมูลกับสายด่วนนั้นไม่เป็นความเป็นจริง
น.ส.สมจิตร กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้นตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ก็มีการรับแจ้งความและออกหมายเรียกตนเองและน้องสาว ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ทั้งที่ไม่ใช่ท้องที่รับผิดชอบ โดยให้ไปพบกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 14.00 น.เมื่อสอบถามไปทางตำรวจว่ามีการไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าวหรือไม่ ตำรวจแจ้งว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเพราะกฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา และมีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่สายด่วนที่รับแจ้งเหตุแล้ว ทำให้ตนเองตกเป็นผู้ต้องหาทันที
“วันนี้จึงเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับ ผบ.ตร.เพื่อให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของตำรวจสน.สำราญราษฎร์ ที่รับแจ้งความทั้งที่ไม่ใช่ท้องที่รับผิดชอบของตนเอง ดิฉันกับน้องสาวเป็นผู้เสียหาย ได้รับความเดือดร้อนจนทนไม่ไหว จึงโทรแจ้งสายด่วน 1555 ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงทั้งหมด แต่กลับถูกดำเนินคดี และปัจจุบันโรงงานกลึงโลหะแห่งนี้ ก็ยังคงปล่อยมลพิษ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านละแวกใกล้เคียง แม้ว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็ตาม”น.ส.สมจิตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2561 น.ส.สมจิตร ได้นำเลือดหมูราดตัวพร้อมใช้มีดอีโต้ขู่ทำร้ายร่างกายตัวเอง เพื่อขอความเป็นธรรมหลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้เจ้าของโรงงานกลึงโลหะพิพาทเข้ามาเป็นผู้ร้องสอดในคดี ซึ่งทางอธิบดีศาลปกครองกลาง ได้เชิญ น.ส.สมจิตรและน.ส.สมหมาย ทำความเข้าใจถึงกระบวนการพิจารณาคดีของศาล