ผู้สื่อข่าวไทยแทบลอยด์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่ง(บันทึกข้อความ ที่ 0023(ภก.).17/303)โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า”ให้ตำรวจ 6 นาย ประกอบด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต , พ.ต.ท.เสกสรร คมสาคร รองผู้กำกับการปราบปราม สถานีตำรวจภูธรป่าตอง , พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรป่าตอง,
พ.ต.ท.สุริยัน เพชรช่วย สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรป่าตอง , พ.ต.ต.ธัญตุรงค์ วุฒิวงศ์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรป่าตอง , และ พ.ต.ต.กรพล เลี้ยงบุญจินดา สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรป่าตอง เข้ารายงานตัวที่กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากกองตรวจราชการ 8 พบว่ามีมูลที่ควรกล่าวหา ตำรวจทั้ง 6 นาย กรณีอาจมีการปล่อยปละละเลยให้เปิดบ่อนพนัน , เข้าไปเกี่ยวข้องกับโยกย้ายตำแหน่งผู้กำกับการ , และเรียกเก็บผลประโยชน์ จากผู้ประกอบการหาดป่าตอง จึงต้องเรียกเข้ามาแจ้ง ให้ทราบเรื่องสรุปพยานและหลักฐาน ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง 2556 ข้อ 19 วรรคสอง”
มีรายงานว่า กรณีดังกล่าว น่าจะเป็นสาเหตุจากกรณีที่มีผู้ร้องเรียน และ ตร.มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ สืบสวนข้อเท็จจริง ว่าตำรวจสถานีตำรวจภูธรป่าตอง มีการเรียกรับส่วยผู้ประกอบการ เดือนละหลายสิบล้านบาท และตำรวจบางนาย เข้าไปเกี่ยวข้องกับการโยกย้ายตำแหน่งผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรป่าตอง เพื่อให้สืบทอดอำนาจ รวมถึงกรณีทหารบุกเข้าจับกุมบ่อนพนัน แต่ไม่มีตำรวจท้องที่ร่วมเข้าปฏิบัติการด้วย นายตำรวจทั้ง 6 นาย ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ และผลการสืบสวนข้อเท็จจริงจาก กองตรวจราชการ 8 (กต.8) พบว่ามีมูล จึงถูกสั่งให้ไปให้การชี้แจงพยานหลักฐานต่อ กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ ถนนรามอินทรา ตามคำสั่งดังกล่าว