นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ตนอยากจะฝากไปถึงทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ว่า การคัดบุคคลเข้าไปเป็นรัฐมนตรีนั้นจะต้องเน้นในการป้องกันปราบปรามการทุจริต เพราะตนเคยเป็นประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร และเคยตรวจสอบการทุจริตมาก่อน ก็พอจะทราบประวัติย้อนหลังการทุจริต ของนักการเมืองที่ติดโผรายชื่อรัฐมนตรี และมีบางรายที่ป.ป.ช. ได้มีมติตั้งอนุกรรมการฯ ไต่สวนในขณะนี้

“ดังนั้น ผมอยากจะให้มีการตรวจสอบประวัติย้อนหลังการทุจริต ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าทาง ป.ป.ช. ได้ตั้งข้อกล่าวหาใครไว้บ้าง เพราะการที่ ป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนฯ ในขณะนี้ แสดงว่า เรื่องของการทุจริตนั้น ก็ต้องมีมูล ดังนั้น เราเห็นนักการเมืองชอบพูดกันว่า มาตรฐานความรับผิดชอบของนักการเมือง มีสูงกว่าบุคคลธรรมดา ซึ่งกรณีนี้จะถือเป็นการพิสูจน์ว่า เป็นไปตามที่พูดหรือไม่ เป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน”นายวิลาศ กล่าว

นายวิลาศ กล่าวอีกว่า อีกอย่างหนึ่งที่ตนขอตั้งขอสังเกตก็คือ ปัญหาการทุจริตนั้นเป็นปัญหาสำคัญของประเทศมาก แต่ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เกือบทุกพรรคมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการทุจริตน้อยมาก เพราะฉะนั้น ตนขอบอกว่า ตนจะขอเป็นนักตรวจสอบอิสระ ไม่อยู่ในคณะกรรมการการตรวจสอบใดๆ ทั้งสิ้นแล้วจะตรวจสอบทุกพรรคทุกคน เพราะฉะนั้น ใครที่มีข้อมูลการทุจริต สามารถส่งมาที่ตนได้เลย เพราะตนไม่มั่นใจว่าที่แทบทุกพรรคไม่มีนโยบายเกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริต

“เป็นไปได้ว่าพรรคการเมืองส่วนใหญ่ มีพวกทุจริตเข้าไปปะปน มากบ้างน้อยบ้าง เพราะฉะนั้น จึงไม่กล้ามีนโยบายในเรื่องดังกล่าว แล้วในช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีทีวีหลายช่อง ประสานให้ผมออกรายการ ให้ไปดีเบตเรื่องการปราบปรามทุจริต ผมก็ยินดีไป แต่ในท้ายที่สุดแล้ว กลับไม่มีตัวแทนพรรคการเมืองใดออกไปดีเบตกับผมในเรื่องนี้ ดังนั้น ผมจึงอยากฝากย้ำด้วยว่า ให้เลือกคนที่บริสุทธิ์ ไม่มีคดีทุจริต เข้าไปเป็นรัฐมนตรี อย่าให้ผมไปตรวจสอบคนในพรรคตัวเองเลย”นายวิลาศ กล่าว