เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)มีรายงานว่า ผบช.ภ.3 รายงานเหตุมายัง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.(มค)และศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.)กรณีที่ผู้ใหญ่บ้าน กะโงก ม.2 ต.สะเดา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านหาปลาแจ้งว่าพบถุงกระสอบ จำนวน 4 ถุง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ EOD ร้อย.ตชด.214, ฉก.2 ร้อย.รส.อ.บัวเชด, ฝ่ายปกครอง อ.บัวเชด และพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เข้าตรวจสอบ
พบกระสอบบรรจุอาวุธสงคราม AK-47 จำนวน 16 กระบอก, แม๊กกาซีน จำนวน 129 อัน และน้ำมันทำความสะอาดปืน จำนวน 18 กระปุก ที่บริเวณสวนปาร์ม ต.สะเดา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์
มีรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้รับรายงาน ได้สั่งการให้รีบสอบสวนขยายผล ว่าอาวุธสงคราม ดังกล่าว มีที่มาอย่างไร พร้อมทั้งจะเดินทางลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อตรวจร่วมสอบสวน เร่งรัดขยายผล สืบสวนจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่าอาวุธสงครามทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ขณะสั่งการให้ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รองผบก.สปพ. ซึ่งเชี่ยวชาญด้านตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าไปตรวจสอบว่าเป็นอาวุธสงครามล็อตเดียวกันกับพี่พบในลำห้วย อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ หรือไม่ ยอมรับว่าในทางสืบสวนอาวุธสงครามที่ อ.สะเดา จ.สุรินทร์ มีความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามที่พบ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
รองผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนการขยายผลอาวุธสงครามที่พบในคลองน้ำ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ได้ตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด19 ตัว ตามเส้นทางเป้าหมาย เพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า1คน อาวุธจำนวนมากไม่เชื่อว่าจะขนมาคนเดียวได้ แต่พอจะมีข้อมูลกลุ่มผู้ต้องสงสัยอยู่บ้าง ซึ่งก็ได้นำของกลางกระสอบ ถุงมือ และอาวุธสงคราม ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบลายนิ้วมือและดีเอ็นเอแฝง คาดว่าภายใน 1 เดือนจะทราบผล ขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล
“เชื่อว่าจุดที่พบเป็นเพียงจุดพักอาวุธเท่านั้น แม้ถุงกระสอบจะมีสภาพเก่า แต่ตัวอาวุธยังใช้การได้ และไม่มีคราบตะไคร่น้ำเกาะ คาดว่านำมาพักไว้ไม่นาน ส่วนจะนำไปไหนต่อนั้นต้องสืบสวน ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ แต่อาวุธสงครามที่พบมีลักษณะคล้ายที่ถูกใช้ในการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 2553-2557 และไม่ใช่อาวุธลักษณะเดียวกับที่ใช้ในการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แน่นอน ส่วนประเด็นค้าอาวุธสงครามก็ยังไม่ตัดทิ้ง แต่ให้น้ำหนักน้อยมาก ส่วนระเบิดที่พบที่วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เป็นระเบิดเก่าประมาณ 40-50 ปีที่แล้ว ใช้งานไม่ได้ อยู่ระหว่างให้กองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม”รองผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในการประชุมเตรียมความพร้อมรองรับการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20-23 มิถุนายนนี้ ได้สั่งการให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยของกลุ่มผู้นำและคณะติดตามเพิ่มอีกเท่าตัว และตั้งด่านตามเส้นทางต่างๆ คุมเข้มทั้งพื้นที่ชั้นในและชั้นนอก ไม่กังวลว่าการพบอาวุธสงครามจะทำให้ผู้นำที่มาประชุมกังวล แต่กลับจะยิ่งทำให้ผู้นำแต่ละประเทศมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น ที่ประเทศไทยมีมาตรการกวดขันอาวุธสงครามที่เข้มข้น มีทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ดำเนินการอย่างเต็มที่