พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมด้วย พันตำรวจเอก สันติ ชัยนิรามัย รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รองผบก.ป.),พันตำรวจเอก ธงชัย อยู่เกษ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.1 บก.ป.),พันตำรวจเอก อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.2 บก.ป.),พันตำรวจเอก บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.3 บก.ป.),พันตำรวจเอก วิจักขณ์ ตารมย์ ผู้กำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม (ผกก.สนับสนุน บก.ป.)
ได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีพบศพผู้เสียชีวิต ซึ่งคาดว่าเป็นศพของนายอัชฌา หนูปทุม หรือขิก อายุ 38 ปี ชาว จ.พัทลุง ลูกจ้างร้านพหลค้าวัสดุก่อสร้าง ตั้งอยู่ริมถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.ในสภาพถูกยัดใส่ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร โบกปูนและฝังกลบไว้ด้านหลังร้านอาหารพหลวิว และพหลฟู้ด แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. โดยมี นายจุ๊บฯ หรือนายประยูน แก้วพยศ ซึ่งเป็นคนดูแลร้านวัสดุก่อสร้างดังกล่าวตกเป็นผู้ต้องสงสัยทางคดี
พล.ต.ต.จิรภพฯ กล่าวก่อนการประชุมดังกล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนเชื่อได้ว่านายประยูนฯ เป็นผู้ก่อเหตุ โดยมีพนักงานอีก1คนในร้านร่วมด้วย โดยมีมูลเหตุจูงใจจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากพบว่าเสมียนสาวที่เคยทำงานที่ร้านดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับนายประยูนฯ ก่อนลาออกไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนจะไปมีความสัมพันธ์กับนายอัชฌาฯ จึงน่าจะเป็นเหตุให้นายประยูนฯ โกรธแค้น ขณะที่ความคืบหน้าในส่วนของคดีขณะนี้มีการสอบพยานไปแล้ว 6 ปาก โดยเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต 2 คน และเป็นคนงานก่อสร้่างของร้านอาหาร (พหลวิว)ที่อ้างว่าเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ถูกนายประยูนใช้ให้ช่วยยกถังไปฝังโดยไม่ทราบว่ามีศพอยู่ภายใน
พล.ต.ต.จิรภพฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งให้ชุดสืบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับ โดยในส่วนของนายประยูนฯ 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัยนั้น จากการสืบสวนพบว่า หลังเกิดเหตุนายประยูนฯ ได้ขอลาได้กลับไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่ภูมิลำเนาในจังหวัดพัทลุง และไม่ได้กลับมาทำงานอีกเลย
ส่วนคนงานในร้านอีก 1 คน ก็อยู่ระหว่างติดตามตัว ทั้งนี้เจ้าของร้านอาหารพหลวิวและร้านพหลค้าวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเป็นน้องชายของนายประยูนฯ นั้น เบื้องต้นตรวจสอบยังไม่พบความเกี่ยวข้อง เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเจ้าตัวอยู่ต่างประเทศอย่างไรก็ตามในวันนี้ทางญาติผู้เสียชีวิตจะเดินทางจากจังหวัดพัทลุง มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อดำเนินการทางคดีต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า มูลเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวเชื่อว่ามาจากเรื่องชู้สาวนั้น เนื่องจากการสืบสวนพบว่า ก่อนหน้านี้นายประยูนฯ ผู้ต้องสงสัยและเป็นผู้ดูแลร้าน ได้มีการคบหากับเสมียนของร้านซึ่งเป็นหญิงหม้าย แต่ระหว่างนั้นหญิงหม้ายคนดังกล่าวกลับไปคบซ้อนและมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนายอัชฌาฯ ผู้ตาย จึงทำให้นายประยูนฯ เกิดความไม่พอใจและมีการไปพูดจาข่มขู่นายอัชฌาฯ หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล
จนกระทั่งต่อมาเจ้าของร้านทราบเรื่องดังกล่าวขึ้น พร้อมทั้งยังทราบอีกว่านายประยูนฯ ได้แอบยักยอกเงินของร้านไปปรนเปรอเสมียนสาวคนดังกล่าว ทางเจ้าของร้านจึงตัดสินใจไล่เสมียนสาวออกจากร้านเพื่อตัดปัญหาเรื่องทั้งหมด แต่ต่อมาเมื่อเสมียนสาวคนดังกล่าวได้ออกจากร้านไปแล้วกลับพยายามตีตัวออกห่างจากนายประยูนฯ ก่อนจะไปคบหากับนายอัชฌาฯ อย่างจริงจัง
กระทั่งวันเกิดเหตุนายประยูนฯ ได้เดินเข้าไปเจรจากับนายอัฌชาฯ อีกครั้ง ที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้างดังกล่าว ก่อนเรื่องจะบานปลายจนนำไปสู่การลงมือฆ่ายัดถังโบกปูนดังกล่าว ก่อนจะใช้ให้คนงานภายในร้านนำถังไปฝังดินไว้ที่ริมบึงหลังร้านอาหารดังกล่าว
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง