พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลจับกุม นายคลินตัน นาสเซอร์รี่ (MR.CLINTON NASELI) อายุ 22 ปี สัญชาติแคเมอรูน ในความผิดฐานปลอมและใช้แผ่นปะตรวจลงตรา, ปลอมรอยตราประทับการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศปลอม, ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมฯพร้อมของกลางหนังสือเดินทาง และใบเสร็จรับเงินของสถานทูตไทยปลอม หลังเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลาได้ร่วมกันจับกุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่
จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สังกัดด่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งปฎิบัติทำหน้าที่ตรวจอนุญาตบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ได้ทำการบันทึกข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยที่บุคคลต่างด้าวมิได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจริง ซึ่งกรณีดังกล่าวกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 3 คน ประกอบด้วย จ.ส.ต.นพดล บุญยะวัน อายุ 36 ปี อดีต ผู้บังคับหมู่ ฝ่าย ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ บก.ตม.2 / ด.ต.สมยศ ฟุ่มฟองฟู อายุ 38 ปี อดีต ผบ.หมู่ ฝ่าย ตม.ขาเข้าด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ บก.ตม.2 และ นางสาวพัณณิตา สรวยงาม อายุ 37 ปี จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ขณะที่ในส่วนของนายหน้า จากการสอบถาม นางสาวพัณณิตา พบว่าได้รับค่าจ้างหัวละ 50,000 บาท ล่าสุดเจ้าหน้าที่จับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่าตั้งแต่ตนเข้าดำรงตำแหน่ง ผบช.สตม. ปัจจุบันมีการจับกุมตำรวจตม.ที่กระทำการทุจริตแล้วจำนวน 5 คน นายหน้า 37 คน และได้มีการเพิกถอนเอกสารของชาวต่างชาติที่กระทำความผิดกว่า 200 คน โดยในส่วนของเจ้าพนักงาน พบว่าทั้งหมดให้การรับสารภาพ ซึ่งล่าสุดได้ให้ออกจากราชการแล้ว เบื้องต้น ยืนยันว่าจะไม่ปกป้องเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิด และจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อเอาผิด
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาตำรวจได้จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีพฤติการณ์บันทึกข้อมูลการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์สารสนเทศ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (PIBICS) ให้ปรากฏข้อมูลและหลักฐานเท็จ และประทับตราขาเข้าอันเท็จ โดยที่คนต่างด้าวคนดังกล่าวไม่ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจริง ซึ่งเหตุเกิดที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 3 คน และในครั้งนี้ อีก 2 คน รวม 5 คน และหากตรวจพบผู้กระทำการทุจริตเพิ่มเติม ก็จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป