นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรร เปิดเผยถึงกรณี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะแก้ไขให้กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. บังคับใช้หลังจากครบ 90 วัน นับจากประกาศในราชกิจานุเบกษา ว่าเป็นการหน่วงเวลาบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งนายนิพิฏฐ์ กล่าวว่าโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับภาษี เพื่อให้หน่วยงานราชการหรือประชาชน ปรับตัวเข้ากับระบบภาษีใหม่ คราวนี้ เป็นการหน่วงเวลาเพื่อยืดการเลือกตั้ง เท่าที่จำได้ไม่เคยปรากฎเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน การหน่วงเวลาการเลือกตั้งโดยกฎหมายในครั้งนี้เหมือนกับการบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่บัญญัติให้เลือกตั้งใน 150 วัน หลังกฎหมายใช้บังคับ
นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่าหากเราย้อนเวลาหาอดีต การบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญก่อให้เกิดวิกฤติในประเทศเกือบทุกครั้ง ก่อนนี้ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยพยายามแก้รัฐธรรมนูญ ก็เกิดวิกฤติเพราะประชาชนเห็นว่า บิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาครั้งนี้ การหน่วงเวลาการบังคับใช้กฎหมาย ก็เท่ากับบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน เพียงแต่ครั้งที่แล้วเป็นการบิดเบือนโดยผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ครั้งนี้ เป็นการบิดเบือนโดยผู้มาจากเผด็จการ