ที่ กองปราบปราม พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอก อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม (ผกก.2 บก.ป.) พร้อมด้วย พันตำรวจโท กรกช ยั่งยืน สารวัตรกองกำกับการ 2 กองปราบปราม (สว.กก.2 บก.ป.) นำกำลังเข้าจับกุม พระสิทธิ หรือนายสิทธิ อินทรโชติ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 4 ต.บางกะไห อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ. 371/2551 ลงวันที่ 10 มิ.ย.2551 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” ได้ริมถนนสุขุมวิท หมู่ที่ 1 บ้านหนองระหาน ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี
ทั้งนี้เมื่อปี 2551 ขณะที่ พระสิทธิ จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมกับพวกที่เป็นฆราวาส ก่อเหตุลักพระพุทธรูปในพระอุโบสถ และพระเครื่องที่ให้ประชาชนเช่าบูชาไปขาย เมื่อเจ้าอาวาสทราบเรื่องก็ได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองแหน จ.ฉะเชิงเทรา กระทั่งศาลออกหมายจับไว้ พอทราบว่ามีหมายจับจึงได้หลบหนีไปจำพรรษาในพื้นที่ จ.กระบี่ จ.ภูเก็ต
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า พระสิทธิได้หลบหนีมาจำพรรษาอยู่ที่วัดบางปิดบน ต.บางปิด อ.แหลมงอบ จ.ตราด จึงวางแผนเข้าจับกุม แต่พระสิทธิไหวตัวทันหลบหนีขึ้นรถโดยสารไป จ.จันทบุรี เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมตัวได้ที่ริมถนนสุขุมวิท ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทรบุรี ก่อนเชิญตัวไปลาสิกขาบทที่วัดบางปิดบน แต่เจ้าตัวไม่ยอมกล่าวคำลาสิกขา โดยอ้างว่าเมื่อได้ประกันตัวจะกลับมาห่มผ้าเหลืองเป็นพระต่อ
จากการสอบสวน พระสิทธิ ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า เพื่อนที่เป็นฆราวาสเป็นผู้ลงมือลักพระพุทธรูปและพระเครื่องของวัดไปขาย โดยที่ตนไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด แต่เมื่อถูกออกหมายจับก็กลัวถูกดำเนินคดีจึงหลบหนีไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ ทางภาคใต้ กระทั่งเรื่องเงียบจึงกลับมาจำพรรษาที่วัดบางปิดบน จ.ตราด กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามว่าเพื่อนที่ขโมยพระเป็นใครชื่ออะไร พระสิทธิกลับไม่ขอให้การซัดทอดใดๆ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองแหน จ.ฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง