ผช.ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสภาพการจราจรทางอากาศ เส้นหลัก–มอเตอร์เวย์ M6 ยืนยันความพร้อม 100% รองรับการเดินทางช่วงปีใหม่ 2569 กำชับเข้มวินัยจราจร 10 ข้อหา เร่งช่วยเหลืออุบัติเหตุ–เคลียร์ผิวจราจรเร็ว เปิดสายด่วน 24 ชั่วโมง ดูแลประชาชนตลอดเส้นทางทั่วประเทศ
วันนี้ (26 ธันวาคม 2568) เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตรวจสภาพการจราจรทางอากาศยานเพื่อเตรียมรองรับการอำนวยการความสะดวกการจราจรป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง และคณะ ร่วมตรวจ บริเวณทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (วงแหวนตะวันออก), ทางแยกต่างระดับบางปะอิน, ถนนพหลโยธิน (ทล.1), ถนนมิตรภาพ (ทล.2) และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ช่วงปากช่อง – ขามทะเลสอ ระยะทาง 196 กิโลเมตร
ต่อมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางไปยังจุดบริการประชาชน ทล.204 ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (ด้านตะวันตก) หรือ ถนนบายพาส อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมี พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรต่าง ๆ ในพื้นที่ ภ.จว.นครราชสีมา และผู้แทนภาคีเครือข่าย ให้การต้อนรับ และร่วมประชุมรับฟังการบรรยายสรุปแผนการจราจรเทศกาลปีใหม่, รับชมการบริหารจัดการกล้อง CCTV, การใช้โดรนตรวจสภาพการจราจร และรับฟังการบรรยายการใช้ M6
จากนั้น พล.ต.ท.สมประสงค์ฯ เดินทางไปยังจุดพักรถทับกวาง M6 กม.64+900 รับฟังการบรรยายสรุปการจัดการจราจร และตรวจสภาพการจราจรและการเดินทางของประชาชนบนเส้นทาง M6 พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานด้วย
พล.ต.ท.สมประสงค์ฯ กำชับการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ให้สร้างวินัยการจราจรให้ประชาชน เน้นเข้มงวดจับกุม 10 ข้อหาหลัก อาทิ ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ต้องสวมหมวกกันน็อค เมาไม่ขับ เป็นต้น โดยใช้วิจารณญาณในการปฏิบัติหน้าที่และดำเนินคดี, กรณีมีการปรับทางเบี่ยงช่องจราจรพิเศษ ให้มีป้ายเตือนล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ขับขี่เตรียมตัวทัน, กรณีเกิดอุบัติเหตุ ให้จัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือและเคลียร์พื้นผิวการจราจร, การด่านชุมชน ให้ตำรวจไปร่วมตั้งด้วย หากมีกำลังเพียงพอ อย่างน้อยด่านละ 1 คน พร้อมให้สายตรวจปฏิบัติร่วมกันกับแขวงทางหลวงวางกำลังตามเส้นทาง และจัดการจราจรกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยให้ตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกกับฝ่ายแพทย์ในการไปที่เกิดเหตุได้โดยเร็ว พร้อมกำชับกรณีได้รับเเจ้งเหตุจากสายด่วน 191 เจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งต้องสามารถรีบถ่ายทอดแจ้งเหตุให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทาง ติดต่อขอความช่วยเหลือที่สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599, สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และตำรวจทางหลวงยังได้จัดโครงการ “ห้องพักฟรี จากใจตำรวจทางหลวง”กรณีที่ผู้ขับขี่เมื่อยล้า ง่วง เพลีย สามารถเข้าพักเพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้ ณ 205 หน่วยบริการทั่วประเทศ
