วันที่ 10 ธ.ค. 2568 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.256และเพิ่มเติมหมวด15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กำลังพิจารณาในวาระที่2 ของรัฐสภาระหว่างวันที่ 10 ถึง 11 ธค.นี้ ว่า แม้ร่างจะมีจุดแข็งเรื่องการกำหนดให้การร่าง รธน.ฉบับใหม่ต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไว้ ดังปรากฏใน ม.256/26 และกำหนดให้ต้องมีการบรรจุหมวด1หมวด2 ของ รธน.ฉบับปัจจุบันไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ ซึ่งก็คือการ ห้ามแตะหมวด1 หมวด2 ดังที่ปรากฏใน ม.256/26/1 นั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ดูลึกลงไปในรายละเอียดของเนื้อหา ม.256/26 อันเป็นมาตราสำคัญที่ได้กำหนดเงื่อนไขบังคับให้การจัดทำ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการบรรจุสาระสำคัญ 9 ข้อไว้ด้วยนั้น จะพบว่าใน9 ข้อนั้น ไม่มีข้อไหนที่บังคับให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องกำหนดคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งนายก รัฐมนตรี รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ องค์กรอิสระและอื่น ๆ ต้องมีมาตรฐานจริยธรรมกำกับ รวมทั้งไม่มีข้อไหนที่บังคับให้ต้องมีเนื้อหาสำคัญ ของรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงที่ระบุไว้ในมาตรา 160(4)(5) ที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด
ซึ่งการไม่บังคับให้มีหลักการเนื้อหาดังกล่าว ย่อมหมายความว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะระบุเรื่องนี้ไว้หรือไม่ก็ได้ ถ้าไม่มีการระบุเรื่องนี้ไว้หรือทำสาระสำคัญของ รธน. ฉบับปราบโกงหายวับไปกับตา ก็แปลว่า รธน.ใหม่ก็ไม่ได้มีหลักประกันในประเด็นนี้ว่าเท่าเทียมหรือดีไปกว่า รธน.ปี 60 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อันอาจจะส่งผลตอนทำประชามติได้ว่าถ้าอย่างนั้นจะแก้กันไปทำไม ถ้าแก้แล้วไม่ได้ดีขึ้น

