สงขลา, วันที่ 9 ธันวาคม – พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. เดินทางไปที่สำนักงาน ปปส. ภาค 9 จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยมี นางสาวสุวิมล ช้างสาร ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์และอำนวยการ, นางสายชล จันทร์หนู ผู้อำนวยการส่วนบังคับใช้กฎหมาย และนายสัณฑธรรม ดีอนันต์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนปราบปรามยาเสพติด 5 พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 9 ให้การต้อนรับ

จากนั้น ได้รับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 19 – 28 ธันวาคม 2568 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่และครอบครัวในพื้นที่ และสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนหลายหลัง โดย เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เน้นย้ำให้การดำเนินงานเป็นไปตาม นโยบายรัฐบาล ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและฟื้นฟูความเสียหายจากภัยพิบัติ โดยให้ความสำคัญในประเด็นหลัก ได้แก่ การเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยและช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง, การดูแลสวัสดิการและความปลอดภัยของบุคลากรภาครัฐในพื้นที่เสี่ยงภัย, การเตรียมความพร้อมระบบป้องกันและบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ และการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ ท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้สำนักงาน ปปส. ภาค 9 จัดทำ แผนเผชิญเหตุ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ลดความสูญเสีย และปรับวิธีการทำงานให้มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม มอบหมายแนวทางปฏิบัติ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ดังนี้

1.ให้ปปส.ภาค 9 จัดทีมเข้าช่วยเหลือข้าราชการและลูกจ้างในบังคับบัญชาในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านที่ได้รับผลกระทบให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
2.จัดระบบการทำงานแบบ WFH สำหรับข้าราชการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วมและยังไม่สามารถฟื้นฟูบ้านได้สมบูรณ์ ให้สามารถปฏิบัติงานแบบ Work From Home (WFH) ชั่วคราว เพื่อให้มีเวลาจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
3.มอบเงินเยียวยาเบื้องต้น เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวจำนวน 23 คน ได้รับ เงินช่วยเหลือคนละ 5,000 บาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายเร่งด่วนในการฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่

จากนั้น พ.ต.ต.สุริยา ได้ไปเยี่ยมบ้านเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อม มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาดังกล่าว และกล่าวให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
เลขาธิการ ป.ป.ส. ย้ำว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการติดตามสถานการณ์ แต่ยังสะท้อนถึงความห่วงใยต่อบุคลากรในพื้นที่ พร้อมสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบนโยบายรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

