ดอกเล็กสีสดบนเชิงเขาหินปูน ไม่ได้มีดีแค่ความงาม แต่ “แววมยุรา” ยังซ่อนภูมิปัญญาพื้นบ้านในการรักษาอาการปวดฟันไว้ด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของพืชท้องถิ่นที่ควรค่าแก่การศึกษา อนุรักษ์ และส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่

แววมยุรา บุปผชาติงามสองคุณประโยชน์
ท่ามกลางธรรมชาติบนพื้นที่เขาหินปูน อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ดอกเล็กสีสดนามว่า “แววมยุรา” (Torenia fournieri) เปล่งประกายท่ามกลางความขรุขระของพื้นดิน สายลม และแสงแดด พืชดอกล้มลุกขนาดเล็กที่หลายคนคุ้นตาในสวนหย่อม หรือกระถางริมบ้าน กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น ทั้งในฐานะไม้ประดับและสมุนไพรพื้นบ้านที่มีคุณค่าซ่อนอยู่

แววมยุราเป็นพืชในวงศ์ Scrophulariaceae สูงเพียง 15–50 เซนติเมตร รูปร่างกะทัดรัด ลำต้นเป็นเหลี่ยมและแตกกิ่งดกแน่น จุดเด่นอยู่ที่ ดอกที่มีสองสีในดอกเดียวกัน รูประฆังคล้ายถ้วย ล้อแสงแดดอย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นสีขาว ชมพู เหลือง ส้ม ม่วง หรือแดง พร้อมแต้มเหลืองสดใสตรงโคนกลีบล่าง ดูสะดุดตาและมีเสน่ห์เฉพาะตัว

แต่ความงามไม่ใช่ทั้งหมดของพืชชนิดนี้ — ภูมิปัญญาชาวอีสานยังบอกเล่าการใช้แววมยุราเป็น ยาบรรเทาอาการปวดฟัน มานาน โดยนำ รากสด มาทุบพอแหลก หรือคลุกกับเกลือแล้วอมบริเวณที่ปวด ช่วยลดอาการระบมได้อย่างน่าทึ่ง ความรู้ดั้งเดิมนี้สะท้อนให้เห็นคุณค่าของพืชพรรณรอบตัว ที่คนรุ่นก่อนเรียนรู้จากธรรมชาติและส่งต่อกันด้วยประสบการณ์จริง

ภาพที่บันทึกโดย บุญสืบ เผือกอ่อน นักอนุรักษ์ธรรมชาติซึ่งพบแววมยุราตามแนวเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ยิ่งตอกย้ำว่า พืชเล็ก ๆ บนเขาหินปูนเหล่านี้ไม่เพียงสร้างสีสันให้ระบบนิเวศ แต่ยังเป็นมรดกภูมิปัญญาที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ศึกษา และถ่ายทอดต่อไป
แววมยุรา… ดอกเล็กที่สวย และเล็กแต่ “ได้เรื่อง” มากกว่าที่คิด

