ปฎิรูปข้าวทั้งระบบแบบบูรณาการเน้นกระดับเกษตรกร-ข้าวคุณภาพสูง ผสานเทคโนโลยี

595

การสัมมนา เรื่อง “การขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาการผลิตข้าว และการพัฒนาความเข้มแข็งของกลุ่มเกษตรกร” ที่มี นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวมอบนโยบายและข้อเสนอแนะการพัฒนาการผลิตและการตลาดข้าวของไทย โดยมี นายอานนท์ นนทรีย์ อธิบดีกรมการข้าว และผู้บริหารกรมการข้าว เข้าร่วม ณ โรงแรมทีเค พาเลซ กรุงเทพมหานคร มีประเด็นน่าสนใจหลายเรื่อง

นอกจากวัตถุประสงค์ในการบูรณาการเชิงนโยบาย และปฏิบัติในภาคการผลิตข้าวอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตผ่านการตลาด จนถึงการเพิ่มศักยภาพเกษตรกร ยังมีสาระสำคัญ เพื่อถ่ายทอดทิศทางนโยบายของรัฐบาล ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับอย่างชัดเจน และทบทวนผลการดำเนินงานที่ผ่านมา วิเคราะห์อุปสรรคในระดับพื้นที่ และร่วมกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงพัฒนาศักยภาพศูนย์ข้าวชุมชน และกลุ่มนาแปลงใหญ่ให้มีความเข้มแข็ง และสามารถดำเนินงานได้ด้วยตนเอง ตลอดจนเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเทคโนโลยีใหม่ในภาคการผลิตข้าว ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์คุณภาพ เทคโนโลยีดิจิทัล การลดต้นทุน และการเชื่อมโยงตลาด และพัฒนากลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันเกษตรกร และเครือข่ายพันธมิตรอย่างเป็นรูปธรรม


รัฐบาลมุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนา และช่วยเหลือภาคเกษตรกรรม ด้วยการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สร้างรายได้ ยกระดับภาคเกษตร และการจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อม โดยเร่งขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน เพื่อสร้างรายได้ สร้างตลาด และสร้างโอกาส ให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง หลุดพ้นจากเส้นความยากจน โดยทำงานเชิงบูรณาการให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เร่งการปรับเปลี่ยนการผลิตข้าวของเกษตรกรให้เป็นการผลิตข้าวเชิงคุณภาพ เช่น การผลิตข้าวคาร์บอนต่ำ (Low carbon rice) ข้าวโภชนาการสูง ข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวแห่งอนาคต (Thai Premium & Low-Carbon Rice 2030) เป็นต้น รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวที่มีข้าวพันธุ์ดี ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

นอกจากการผลิตข้าวคุณภาพ และข้าวคาร์บอนต่ำที่ต้องปรับเปลี่ยนภายใน 3-5 ปี ที่ตั้งเป้า 1 ล้านไร่แล้ว ยังต้องมีการเร่งปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกข้าวไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทน เช่น ข้าวโพดหรือพืชตะกูลถั่ว โดยมีเป้าหมาย 1 ล้านไร่ ทั้งด้านการเพาะปลูกและการตลาด และได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อทำโครงการนี้ร่วมกัน ทั้งนี้เป็นไปเพื่อการขับเคลื่อนตามแนวนโยบาย ยกระดับราคาข้าวไทยอย่างยั่งยืน โดยมีวิสัยทัศน์ให้ “ข้าวไทยเป็นสินค้ามูลค่าสูง มีคุณภาพโดดเด่น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอนภายในปี 2573” โดยมีนโยบายหลักสำคัญ 5 ด้านในการยกระดับข้าวไทยอย่างยั่งยืน ได้แก่

(1) ระบบพันธุ์และเมล็ดพันธุ์ตรงตลาด พัฒนา “ระบบพันธุ์และเมล็ดพันธุ์ตรงตลาด” ด้วยเทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์สมัยใหม่ และฐานข้อมูล Demand-Supply เพื่อให้เกษตรกรมีเมล็ดพันธุ์บริสุทธิ์ ทันฤดูกาลและตรงตามความต้องการของตลาด และผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

(2) ระบบข้าวมูลค่าสูงจากคุณภาพและนวัตกรรม ขับเคลื่อน “ข้าวมูลค่าสูง” ผ่านการสร้างผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพ พร้อมส่งเสริม Soft Power และนวัตกรรมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และสร้างอัตลักษณ์ข้าวไทยในตลาดโลก

(3) การผลิตข้าวคาร์บอนต่ำและเกษตรแม่นยำ ปรับระบบการผลิตข้าวสู่ “ข้าวคาร์บอนต่ำ” ด้วยเกษตรแม่นยำ เทคโนโลยี Smart Farming และระบบ MRV พร้อมส่งเสริมการจัดการฟางแบบงดเผา (No -Burn) เพื่อสร้างรายได้เสริมจากฟางและเครดิตคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

(4) การตลาดและอุตสาหกรรมเชื่อมโยงโลก สร้าง “ระบบตลาดข้าวเชื่อมโยงโลก” โดยบูรณาการการผลิต-แปรรูป-การค้า ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล Rice Value และ Thai Rice Digital Exchange เพื่อให้ข้าวไทยเข้าถึงตลาดพรีเมียม พร้อมยกระดับมาตรฐาน Traceability และ การรับรองคุณภาพ

(5) ปฏิรูปนโยบายและแรงจูงใจ ปฏิรูประบบนโยบายและแรงจูงใจภาครัฐด้วยการจ่ายตามผลลัพธ์ (Result-Based Incentive) และกองทุนเปลี่ยนผ่าน เพื่อสนับสนุนเกษตรกรเข้าสู่ระบบข้าวคุณภาพ พร้อมพัฒนา Big Data Dashboard และการวางแผนระยะยาวแบบ Foresight เพื่อความยั่งยืนของระบบข้าวไทย