หน้าแรกกองทัพ-ความมั่นคง"อนุทิน" ย้ำ ไทย ไม่พร้อมเจรจา หลังกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามปฏิญญา ไม่ยึดติดเรื่องภาษีทรัมป์ พร้อมเดินนโยบาย “Do it my way”

“อนุทิน” ย้ำ ไทย ไม่พร้อมเจรจา หลังกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามปฏิญญา ไม่ยึดติดเรื่องภาษีทรัมป์ พร้อมเดินนโยบาย “Do it my way”

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการศึกษา และกล่าวปาฐกถาต่อผู้เข้าอบรม โดยมี พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ. ธราพงษ์ มะละคำ ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ. อุกฤษณ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ร่วมงาน

นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็น “แนวรบใหม่” หากเศรษฐกิจสั่นคลอน ความเหลื่อมล้ำจะเพิ่มขึ้นและนำไปสู่ความปั่นป่วนทางการเมือง รัฐบาลจึงมุ่งประคับประคองผู้มีรายได้น้อย โดยยกตัวอย่างโครงการคนละครึ่งพลัสว่าไม่ใช่การแจกเงิน แต่เป็นการให้เบ็ดตกปลา เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของร่วมทางเศรษฐกิจ

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำความจำเป็นของการบูรณาการระหว่างภาคส่วน โดยกล่าวว่า การแก้ปัญหาของประเทศต้องเชื่อมโยงนโยบายเศรษฐกิจและความมั่นคงเข้าด้วยกัน ไม่ใช่เพียงหน่วยงานทหาร แต่รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ การคลัง ยุติธรรม และหน่วยงานความมั่นคงภายใน

ขณะกล่าวถึงภัยคุกคามภายในประเทศ นายอนุทิน ชี้ว่าปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์และการปราบปรามสแกมเมอร์เป็นเรื่องต่อเนื่อง รัฐบาลได้รวม 15 หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนเพื่อจัดการปัญหานี้ เพราะเหยื่อไม่ได้มีเพียงผู้ขาดการศึกษา แต่ยังมีผู้มีการศึกษาถูกหลอกด้วยเช่นกันด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมภาคเอกชนและเอสเอ็มอีว่าเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ รัฐบาลจะเดินหน้าปรับปรุงกฎหมายเพื่อลดอุปสรรคการลงทุนและแก้ปัญหาสภาพคล่องของภาคเอกชน

เมื่อพูดถึงกรณีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายอนุทิน เปิดเผยว่า ไทยลงนามปฏิญญาเพื่อสันติภาพ แต่คู่เจรจาไม่ได้ปฏิบัติตามข้อที่ตกลงไว้ ซึ่งเป็นเหตุให้ไทย ไม่สามารถเดินหน้าปฏิบัติตามปฏิญญาดังกล่าว และย้ำว่าไทยจะยึดผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมกล่าวถ้อยคำว่า “my way” เพื่อสื่อว่าประเทศไทยจะไม่กลับไปสู่โต๊ะเจรจาในเงื่อนไขเดิมหากอีกฝ่ายไม่ปฏิบัติตาม

สำหรับมาตรการทางการค้าและภาษี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยจะไม่ยึดติดกับตลาดหรือประเทศใดประเทศเดียว หากมีการใช้มาตรการภาษีกดดัน ไทยพร้อมหาตลาดใหม่และผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าภายในประเทศ โดยยืนยันว่ากระทรวงการต่างประเทศกำลังชี้แจงประเด็นดังกล่าวกับสหรัฐฯ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมกำลังทางทหาร นายอนุทิน พยักหน้าและตอบสั้น ๆ ว่า “แน่นอนครับ” พร้อมย้ำว่ารัฐบาลมีแผนปฏิบัติการด้านความมั่นคงและมาตรการที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ในการปิดท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นว่า วปอ. เป็นเครือข่ายสำคัญในการทำงานเพื่อชาติ และเรียกร้องให้ผู้เข้าอบรมนำทัศนคติ “ไม่มีคำว่า No แต่มีคำว่า Yes และ Advance” ไปใช้ โดยย้ำว่าทุกอย่างในวปอ. ต้องหลอมรวมเพื่อบริการบ้านเมืองและไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซง

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img