พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) สั่งการให้ พันตำรวจเอก บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ 3 กองปราบปราม (ผกก.3 บก.ป.),พันตำรวจตรี เอนก บุญตา สารวัตรกองกำกับการ 3 กองปราบปราม (สว.กก.3 บก.ป.) นำกำลังจับกุมตัว นายธวัชชัย จันสมุทร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 1 ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย จ.ชัยภูมิ ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 331/2561 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ข้อหา “ร่วมกันทำไม้หวงห้าม หรือทำอันตราย ด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามและร่วมกันพยายามลักทรัพย์ ของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ”
ทั้งนี้ นายธวัชชัย และพวกได้ตั้งแก๊งลักลอบตระเวนตัดไม้พะยูงในภาคอีสานหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารจึงได้ร่วมกันเฝ้าระวังและออกสืบสวนหาข่าวเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า นายธวัชชัยและพวกได้ขับรถยนต์กระบะ 3 คัน บุกเข้ามาภายในวัดกู่ศรัทธาราม หมู่ 6 ต.เพี้ยราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ก่อนกระจายกำลังใช้เลื่อยยนต์ตัดโค่นต้นพะยูงอายุกว่า 150 ปี แล้วรีบนำขึ้นรถกระบะอย่างรวดเร็ว ขณะกำลังขับรถลำเลียงขนไม้ชุดแรก เจ้าหน้าที่รุดมาจะจับกุม กลุ่มคนร้ายจึงใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ ก่อนเกิดการประทะกันประมาณ 5 นาที จึงสามารถควบคุมสถานการณ์และจับกุมแก๊งตัดไม้พะยูง ได้ 4 คน นอกจากนี้ยังวิสามัญคนร้าย เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อต่อมาคือ นายฤทธิไกร ทรัพย์สถิต หรือโอ อายุ 30 ปี ส่วน นายบัณฑิต ไกรสุข อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการหลบหนีไปได้ 3 ราย โดยหนึ่งในนั้นมีนายธวัชชัยฯ หัวหน้าแก๊งรวมอยู่ด้วย
ต่อมา ผบก.ป.ได้สั่งการให้ กก.3 บก.ป. ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสาน ออกสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากมีพฤติกรรมเหิมเกริมใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับตำรวจและทหาร ซึ่งเป็นที่หวาดกลัวของประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานเป็นอย่างมาก จากนั้นทราบว่า
นายธวัชชัยฯ ได้หลบหนีมากบดานที่บ้านเลขที่ 31หมู่ที่ 9 ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเข้วา จ.ชัยภูมิ ซึ่งเจ้าจองบ้านเป็นญาติห่างๆ กับแฟนผู้ต้องหา จึงเดินทางไปตรวจสอบและสามารถจับกุม นายธวัชชัยฯ ได้ขณะหลบซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า
จากการสอบสวน นายธวัชชัย รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ลักลอบตัดไม้พะยูงจากนายทุนอีกทอดหนึ่ง โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาทต่อคน โดยแต่ละครั้งจะใช้คนประมาณ 10 คน จากนั้นจะแบ่งหน้าที่กันทำ มีคนทำหน้าที่ใช้เลื่อยยนต์ตัดไม้ มีคนดูต้นทาง มีคนทำหน้าที่ลำเลียงไม้ และทำหน้าที่ถืออาวุธคุ้มกัน เมื่อได้ไม้พะยูงมาจะนำไปซุกซ่อนไว้ตามทุ่งนาใน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อรอนายทุนมารับไปขายยังต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานว่าจากการตรวจสอบประวัติ ธวัชชัยฯ หัวหน้าแก๊งรายนี้พบว่ายังมีหมายจับคดีลักลอบตัดไม้พะยูงและยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภาคอีสานถึง 11 หมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง