ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะกำกับดูแลศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2562 พร้อมด้วย พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทุกกองบัญชาการทั่วประเทศโดยมีตัวแทนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจราจรและการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลร่วมประชุม
รองผบ.ตร.กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศ เตรียมพร้อมปฏิบัติในการอำนวยความสะดวกการจัดการจราจรการป้องกันและลดอุบัติเหตุด้านการจราจร เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางสัญจรบนถนนของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ประชุมเตรียมความพร้อมการปฏิบัติเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไป ด้วยความเรียบร้อย เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน มุ่งสนองนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการลดการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และการสูญเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนน และเพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวในต่างจังหวัดให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตามนโยบายด้านการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จุดเน้น
1. การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร ในช่วงที่มีประชาชนออกเดินทางจำนวนมาก ได้จัดเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล อุปกรณ์เครื่องมือ และระบบการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยการลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันหรือจุดแวะพักรถที่มีผู้เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมากไม่ให้มีผลกระทบต่อการจราจรบนเส้นทางหลัก พร้อมทั้งได้มีการดำเนินการในการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการใช้รถและถนนสำหรับประชาชน
1.1 การประชาสัมพันธ์ข้อมูลเส้นทางเลี่ยงของถนนสายต่างๆ ทั้ง 4 ภาค (ภาคเหนือ อีสาน ตะวันออกและใต้) ตามภาพ Infographic ที่ได้แจกจ่ายแล้ว
1.2 เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความในการจราจร จึงออกข้อบังคับ เจ้าพนักงานจราจรทั่วราชอาณาจักร ว่าด้วยการกำหนดช่อง หรือแนวทางเดินรถขึ้นและล่องในถนนบางสาย (ขาขึ้น 10 จุด ระหว่าง 21 -31 ธ.ค.61 และขาล่อง 21 จุด ระหว่าง 1 – 7 ม.ค.62) (ตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้)
1.3 ได้ออกข้อบังคับฯ ว่าด้วยการกำหนดห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนนบางสาย (ระหว่าง 27 ธ.ค.61 – 3 ม.ค.62) เช่น ช่วง ถ.มิตรภาพทับกวาง – คลองไผ่ (รวม 78 กม.) ช่วงกบินทร์บุรี – นาดี (รวม 30 กม.) และช่วงอรัญประเทศ – นางรอง (รวม 9 กม.) ในกรณีรถบรรทุกบางประเภทที่มีความจำเป็นต้องเดินรถในถนนดังกล่าวข้างต้น สามารถขออนุญาตเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดนั้นๆ 2.การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ใน 10 ข้อหาหลักได้แก่
1) ขับขี่รถโดยใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
2) ขับขี่รถย้อนศร
3) ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร
4) ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
5) ไม่มีใบขับขี่
6) แซงในที่คับขัน
7) ขับขี่รถในขณะเมาสุรา
8) ไม่สวมหมวกนิรภัย
9) มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย
10) ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่รถ โดยเน้นหนักในการจับกุมข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน สูงที่สุด คือ ขับขี่รถโดยใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ขับขี่รถในขณะเมาสุรา และไม่ขับรถไปตามทิศทางที่ได้กำหนดให้เดินรถทางเดียว (ย้อนศร) อย่างเข้มข้น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การกวดขันวินัยจราจรในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมถึง 2 ธันวาคม ในส่วนของตำรวจกำชับให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ และกรณีเกิดอุบัติเหตุต้องตรวจวัดแอลกอฮอล์คู่กรณีทุกราย และในปีนี้ยังคงใช้มาตรการยึดรถที่เมาขับ ตามคำสั่งคสช. ซึ่งส่วนตัวมองว่ามาตรการนี้ได้ผล ทั้งนี้นอกจากตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจรแล้วที่สำคัญยังตรวจจับการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายทั้งยาเสพติดและอาวุธอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำการสืบสวนหาข่าวการขนอาวุธสงคราม
“เรื่องสำคัญที่ห่วงในช่วงเทศกาลคือเรื่องความปลอดภัย จึงกำชับให้ทุกหน่วยทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ที่จัดให้มีกิจกรรมเคาต์ดาวน์ ทุกจุดต้องปลอดภัย 100เปอร์เซ็นต์ ถังขยะในพื้นที่จัดงานต้องเป็นแบบใสป้องกันการลักลอบก่อเหตุ สั่งการให้สืบสวนหาข่าวระวังป้องกันเหตุหากพื้นที่ไหนเกิดเหตุมีการคาดโทษถือว่าบกพร่อง ใครที่แหลมมาต้องไปจัดการ พวกกเฬวรากต้องจัดการให้หมด ยอมรับว่าสั่งการให้สืบสวนด้านความมั่นคงสืบสวนไปถึงขั้นว่ากลุ่มก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ มีการเคลื่อนไหวออกนอกพื้นที่หรือไม่ แต่จากการข่าวตอนนี้ก็ยังไม่มี ขอให้ประชาชนนักท่องเที่ยวมั่นใจในความปลอดภัย ขอให้มั่นใจการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่นอกจากตำรวจที่ดูแลด้านการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรซึ่งเป็นกำลังที่แสดงตัวแล้ว ยังมีตำรวจกระจายอยู่ทุกพื้นที่ซึ่งเป็นหน่วยสืบสวนหาข่าวเพื่อเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัย”
ขณะที่ด้านการคืนพื้นผิวจราจร ในเส้นทางถนนมิตรภาพในช่วงเทศกาลนั้น ตัวแทนภาค 3 กล่าวว่า ขณะนี้คืนพื้นผิวจราจรได้บางส่วนแล้วแต่ในช่วงเทศกาลจังคืนพื้นผิวจราจร 100% ในจุดที่มีการก่อสร้างต่างๆ”พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว”