ศาลฎีกา แก้โทษปรับ” ฟิลลิป มอริสฯ” เลี่ยงภาษีบุหรี่ รวม 20 ล้านบาท คงยกฟ้องจำเลยที่ 2

459

วันนี้ ( 9 ต.ค.68) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดำอ.232/2560ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด จำกัด โดย นายเจอรัลด์ มาร์โกลีส ผู้จัดการสาขา ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด และ อดีตพนักงานบริษัทหญิงคนไทย (สงวนชื่อ-สกุล) เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานร่วมกันนำเข้าบุหรี่ที่มีแหล่งผลิตในต่างประเทศ เข้าราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี เพื่อฉ้อค่าภาษีสรรพสามิต ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ม.27,115 จัตวา

อัยการโจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2545 -14 สิงหาคม 2546 จำเลยที่ 1-2 กับพวกที่หลบหนียังไม่ได้นำตัวมาฟ้องอีกหลายคน ร่วมกันนำบุหรี่ยี่ห้อ L&M และยี่ห้อมาร์ลโบโร เข้ามาในราชอาณาจักรไทย และได้ร่วมกันสำแดงเท็จโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงและอุบายด้วยการยื่นใบขนสินค้าขาเข้าต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร กรมศุลกากรเพื่อผ่านพิธีการศุลกากร ซึ่งรวมราคาเป็นเท็จไม่ตรงตามราคาที่แท้จริงและถูกต้องตามกฎหมายศุลกากร จำนวน 780 ครั้ง

คดีนี้ ศาลอาญามีคำพิพากษาให้ปรับ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด จำเลยที่ 1 ตามอัตรากฎหมายที่แก้ไขใหม่ เป็นเงินทั้งสิ้น 130,145,870 บาท ยกฟ้องพนักงานหญิงจำเลยที่2

ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ปรับ บริษัท ฟิลิป มอร์ริส( ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด จำเลยที่ 1 ตามอัตรากฎหมายที่แก้ไขใหม่ จำนวน 2.5 เท่า โดยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปคำนวณค่าอากรเป็นจำนวนเงินที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนจำเลยที่ 2 ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาสรุปว่า พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานนำของผ่านพิธีการศุลกากร เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 ประกอบพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 วรรคหนึ่ง รวม 318 กระทง ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 รวม 318 กระทงๆ ละเป็นเงินจำนวนใกล้เคียงกับสองเท่าครึ่งของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่ม ซึ่งรวมทั้ง 318 กระทงแล้วปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงินจำนวน 20ล้านบาท​ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์