กรุงเทพฯ, วันที่ 6 ต.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินสถานการณ์ การเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) ว่า ช่องว่างทางการเงินด้านนี้ของไทยยังมีอยู่มาก โดยปัจจุบันไทยลงทุนด้านการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศเพียง 1.7 ล้านล้านบาท แต่ความต้องการสูงถึง 28.7 ล้านล้านบาท เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามมาตรการและแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้นทั้งจากในและนอกประเทศ ถึงแม้จะมีแหล่งทุนระดับโลก และในประเทศหลากหลาย แต่การเข้าถึงยังยากเพราะขั้นตอนที่ซับซ้อน เงื่อนไขการกู้ และข้อจำกัดด้านความรู้ความเข้าใจทางการเงิน ทำให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก
รูปแบบของ Climate Finance มีตั้งแต่เงินสนับสนุนแบบให้เปล่า (Grant), ทุนตั้งต้น/เงินสนับสนุนโครงการทดลอง (Seed Funding), เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Loan) ไปจนถึงการร่วมลงทุน/รัฐสนับสนุนบางส่วน (Co-Finance) แต่ละประเภทมีข้อดี–ข้อจำกัดต่างกัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะนำว่า การเลือกใช้ที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก สามารถขับเคลื่อนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและแข่งขันได้ในเวทีโลก

