ตัวแทนจากชมรมคนรักภาคอีสาน 20 จังหวัด และคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด ร่วมทำกิจกรรมส่งกำลังใจให้ “นายกในดวงใจ” ที่เรือนจำกลางคลองเปรม
เวลา 11.40 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางมาร่วมทำกิจกรรมแสดงออกและให้กำลังใจนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม นางมยุเรศ โคตรชมพู เปิดเผยว่า ตัวเองเดินทางมาจากจังหวัดหนองคายเป็นตัวแทนจากชมรมคนรักภาคอีสาน 20 จังหวัด และคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด โดยเดินทางมาตั้งแต่วันตัดสินคือวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา วันนี้มาส่งพลังความรักความศรัทธาที่มีต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนายกในดวงใจของพวกเราให้รับรู้ว่าพวกเรารากหญ้าคนเสื้อแดงยังรักศรัทธา เชื่อมั่นในตัวท่านไม่เปลี่ยนแปลง และพร้อมอยู่เคียงข้างท่านตลอดเวลา สิ่งแรกที่ทำให้รักศรัทธาและเชื่อมั่นคือนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค เพราะสิ่งนี้ทำให้รับรู้ได้ว่าประชาชนทุกคนในแผ่นดินนี้มีสิทธิเท่าเทียมกัน เป็นความรักความห่วงใยของท่านที่มีต่อประชาชน
ส่วนคำตัดสินที่ออกมา นางมยุเรศ บอกว่า เรายอมรับในคำตัดสินในกระบวนการยุติธรรม เราน้อมรับ และศรัทธานายกฯ ที่ยอมสละตัวเองเพื่อจะให้ทุกอย่างสงบ ต่อไปนี้เราจะไม่ถูกกล่าวหาว่าท่านหนีหรือผิด วันนี้เราเชื่อมั่นว่าประชาชนต้องรับรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่านนั้นเป็นความอยุติธรรมหรือยุติธรรมกันแน่ อยากให้แผ่นดินสงบ โดยนายกทักษิณเป็นวีรบุรุษในดวงใจที่รักประชาชนและรักแผ่นดิน
ทั้งนี้กลุ่มคนที่เดินทางมาในวันนี้ได้ร่วมกันตะโกนส่งกำลังใจว่า “เรามาให้กำลังใจนายกทักษิณ” อย่างไรก็ตามจะมาทำกิจกรรมแบบนี้เป็นประจำทุกวัน เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังรักและศรัทธาไม่เสื่อมคลาย เช่นเดียวกับ นางผุดสดี กลิ่นทอง ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดสิงห์บุรี ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า คดีที่นายทักษิณต้องเผชิญทั้งหมด เป็นคดีทางการเมือง ไม่ใช่คดีทุจริตตามที่มีการกล่าวอ้าง พร้อมตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้อง
“ศาลที่พิจารณาคดีนี้ คือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งแตกต่างจากศาลปกติที่ประชาชนทั่วไปได้รับการพิจารณา ทำให้หลายคนไม่มั่นใจว่าเป็นกระบวนการที่ยุติธรรมอย่างแท้จริงหรือไม่ ยิ่งเมื่อเห็นว่าคดีมาตรา 112 ยังพิจารณาโดยศาลอาญาปกติ แต่คดีของนายทักษิณกลับอยู่ในศาลการเมือง เราจึงขอตั้งคำถามต่อระบบยุติธรรมของประเทศ” นางผุดสดีกล่าว
พร้อมกันนี้ นางผุดสดี ยังเรียกร้องให้มีการติดตามคดีที่ดินเขากระโดงอย่างจริงจัง โดยระบุว่า ไม่ควรปล่อยให้ประชาชนเข้าไปครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา

