กรุงเทพฯ วันที่ 15 ส.ค. เวลา 08.59 น. – สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย (MEA SPARK) โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดมท. และ ผู้บริหารกระทรวง, นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าฯ รับเสด็จ
ทรงรับการกราบบังคมทูลถวายรายงานจากนายภูมิธรรม แล้วเสด็จไปทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “MEA SPARK พิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย” และทรงปลูกต้นทองกวาว แล้วจึงเสด็จเข้าอาคาร ทรงสั่นกระดิ่งรถรางไฟฟ้าเปิดการจัดแสดงรถรางไฟฟ้า และทอดพระเนตรการจัดแสดงรถรางไฟฟ้า ณ บริเวณ SPARK Zone ห้องจัดแสดงการบูรณะอาคาร (SPARK JOURNEY) ภาพจิตรกรรมลายเขียนสี ห้องบางกอกใต้แสงประทีป ห้องผจญภัยทะลุมิติเวลา ห้องแสงแรกแห่งสยาม ห้องกิจการไฟฟ้าสยาม ห้องอาณาจักรโรงไฟฟ้าวัดเลียบ ห้องแสงแห่งความเจริญ ห้องหลุมหลบภัย ห้องกำเนิด กฟน. ห้องยุทธศาสตร์ ห้องผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และเสด็จไปยังห้อง Let’s SPARK ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และคณะผู้บริหารการไฟฟ้านครหลวง ทรงลงพระนามาภิไธยบนแผ่นศิลา แล้วจึงประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ
พิพิธภัณฑ์การไฟฟ้าไทย จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแบ่งปันองค์ความรู้ด้านพลังงานไฟฟ้า อันประกอบด้วยประวัติศาสตร์การกำเนิดไฟฟ้าในประเทศไทย พัฒนาการด้านเทคโนโลยีไฟฟ้าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคต เพื่อประโยชน์แก่เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวที่สนใจ โดยมุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางแห่งภูมิปัญญาที่จะจุดประกายความรู้และแรงบันดาลใจในการพัฒนาประเทศต่อไป
สำหรับอาคารพิพิธภัณฑ์ แห่งนี้ เดิมเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าวัดเลียบซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกของประเทศไทย เคยใช้เป็นที่ทำการของบริษัท ไฟฟ้าสยาม จำกัด และมีอายุยาวนานกว่า 109 ปี ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติจากกรมศิลปากร ถือเป็นอาคารอนุรักษ์ที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมตลอดจนมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วิจิตรบรรจงฝีมือช่างชาวตะวันตก โดยได้รับการพัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่ผสานสื่อมัลติมีเดียอันทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวา อีกทั้งยังได้เชื่อมโยงให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ที่ทรงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบไฟฟ้า รวมทั้งพนักงาน กฟน.ทุกหมู่เหล่าซึ่งพร้อมใจมุ่งมั่นพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับความเจริญของประเทศให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ
